SEO 200 ข้อ Check lists ปัจจัยที่ส่งผลต่อลำดับบน Google

เป้าหมายของ SEO : ดันเว็บไซต์ของเราให้ติดอันดับ Google โดยไม่ใช้ Ads

     SEO หรือ Search Engine Optimization คืออะไร ? คำตอบก็คือเป็นขบวนหรือวิธีการที่ทำให้โครงสร้างเว็บไซต์ของเราเหมาะสมแก่การเก็บข้อมูลสำหรับ Search Engine (ยกตัวอย่างคือ Google Yahoo)และเป็นมิตรแก่ผู้ใช้งานซึ่งจะส่งผลให้เว็บไซต์เรามีลำดับดีขึ้น

    ในบทความวันนี้เรียกว่าเป็น Check list ที่ผมได้เอามาจาก lnwshop ซึ่งได้ทำบทความดังกล่าวขึ้นมา เอามาแบ่งปันแก่เพื่อนๆ Dearcowboy ที่กำลังพยายามทำให้เว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับบน Google ซึ่งในระยะยาวจะช่วยลดค่า Ads โฆษณาได้ส่งผลต่อการเพิ่มอัตรากำไรโดยตรง

     ผมหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้ที่เข้ามาอ่าน บันทึกหน้านี้เก็บเอาไว้และอย่าลืมทยอยทำให้ครบทุกส่วนกันสู้ๆครับ : )

---

1. อายุของโดเมนเนม (ยิ่งจดนาน ยิ่งดี)

Search Engine จะเห็นว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีความน่าชื่อถือมากกว่า

---

2. มี keyword (คำค้นหา) ในชื่อโดเมน

ไม่ควรมี Keyword ซ้ำกันหลาย Keyword ใน Domain name

---

3. keyword (คำค้นหา) คำค้นหาเป็นคำแรกในโดเมน 

---

4. วันหมดอายุของโดเมน (ยิ่งอายุเหลือเยอะยิ่งดี)

---

5. มี keyword ในชื่อซับโดเมน (แต่ไม่ควรตั้งยาวเกินไป)

---

6. ประวัติผู้ถือครองของโดเมน (หากเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองบ่อยจะไม่ดี)

---

7. keyword ตรงกับชื่อโดเมน (เช่น Sellshirt.com)

---

8. เปิดเผยข้อมูลใน Whois (ไม่ปิดบังข้อมูลส่วนตัว)

whois คือเว็บตรวจสอบข้อมูลชื่อผู้ถือครองโดเมน ปัจจุบันทางเว็บไซต์จำหน่าย Domain Name จะมีบริการเสริม Privacy ไม่แสดงข้อมูลส่วนตัวผู้ถือครอง

---

9. ชื่อผู้ถือครองใน whois ไม่เคยมีประวัติเป็นผู้ที่ทำผิดข้อบังคับ Google

---

10. หากสามารถใช้ Domain Name .com ได้จะดีที่สุด

.th ทดแทนกันได้ แต่ .th จะมีอันดับต่ำกว่า หากค้นหาแบบทั่วโลก แต่ในประเทศไทยจะดีเหมือนๆกับ .com รู้หรือไม่ ? การตั้งชื่อโดเมนที่ดีควรจะ “สั้น จำง่าย และมีเอกลักษณ์” หากคอนเท้นดี ก็จะทำให้ลูกค้าจำ Domain Name ลูกค้าจะแวะเวียนเข้ามาหาเราได้โดยตรง ซึ่งจะได้คะแนนดันอันดับให้ดีขึ้นได้

---

11. มี keyword ใน Title Tag แต่ไม่ควรมีเยอะซ้ำไป ซ้ำมา

รู้หรือไม่ ?Title ที่จะเพิ่ม Traffic (ผู้เข้าเว็บ) ได้ดี อาจเพิ่มคำเหล่านี้ เช่น สุดยอด, รีวิว, วิธีการ, ในปี 2559, 10 [ใส่ตัวเลขนำหน้าประมาณ Top 10] เป็นต้น ระวังอย่าใช้คำที่เป็น Clickbait เช่น "คุณจะทึ่งถ้าเห็นสิ่งนี้" จะทำให้ลดอัตราการแชร์อย่างมาก และถึงแม้คนจะเข้าเยอะแต่เกิด Bounce Rate สูง (อัตราการเด้งออก ไม่คลิกหน้าอื่นต่อ) ซึ่ง Google ไม่ชอบ

---

12. มี keyword เป็นคำแรกใน Title Tag

ข้อแนะนำควรจะทำให้ Title Tag เป็นประโยคที่สามารถอ่านออกได้ เหนือสิ่งอื่นใด

---

13. มี keyword ใน Description Tag  แต่ไม่ควรจะมีซ้ำคำไปมา

รู้หรือไม่ ? Google มักจะไม่แสดง Description ตามที่เรากำหนดใน Meta Tag แต่มักจะนำส่วนข้อความส่วนบนในหน้ามาแสดงมากกว่า

---

14. มี keyword ใน H1 Tag 

ในหน้าเว็บหนึ่งไม่ควรมี H1 เกินหนึ่งชุด

---

15. มีการใช้คำ keyword นั้นซ้ำมากกว่าคำอื่นๆในหน้านั้น (เทียบคำต่อคำ) แต่ไม่ควรมีเยอะเกินไป 

ทาง SEO เรียกว่า keyword frequency หมายถึงมีคำ keyword ปรากฏในหน้านั้นๆ มากกว่าคำอื่น เช่น มีคำว่า "ชุดเกาหลี" 10 ครั้ง เทียบกับคำอื่นที่มีแค่ 2-3 ครั้งในหน้านั้น ปล.ระวังอย่าให้คำ keyword (คำที่ตรงเป๊ะ) ในเนื้อหาเกิน 4-5 ครั้ง พยายามใช้คำอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องด้วย

---

16. มีเนื้อหาข้อความมากพอสมควร มีมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ Code (1,000-1,500+ คำ)

รู้หรือไม่ ? การเขียนเนื้อหาสำหรับ e-commerce ที่ดีควรเขียนให้เหมือนกับการเขียน blog ซึ่งเน้นที่เนื้อหา ใข้คำที่เกี่ยวข้อง (LSI) และเขียนให้มากเกิน 1,000 คำ

---

17. มีความหนาแน่นของ keyword นั้นๆในหน้านั้นและทั้งเว็บไซต์ (ไม่ควรมีเยอะเกิน)

ทาง SEO เรียกว่า keyword density หมายถึงมีคำ keyword ปรากฏในหน้านั้นๆ เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ต่อคำทั้งหมด เช่น มีคำว่า "ชุดเกาหลี" 10 คำจากทั้งหมด 200 คำ

---

18. มีคำแทน, คำที่เกี่ยวเนื่อง/เกี่ยวข้องในหน้าด้วย (ลองค้นหาคำคำนั้นแล้วดูด้านล่างสุดจะมีคำที่เกี่ยวข้อง)

เพื่อแยกความแตกต่างของคำๆ หนึ่งได้อย่างชัดเจน เช่น 'นั่งตากลม' อาจเป็นการนั่งเพื่อกินลม หรือ นั่งแล้วทำตากลมเป็นดวง ซึ่งหากมีคำเกี่ยวเนื่อง Google จะเข้าใจเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้น รู้หรือไม่ ?คุณสามารถหาคำแทนกันหรือคำที่เกี่ยวข้อง ทาง SEO เรียกว่า Latent Semantic Indexing (LSI) ได้จากการค้นหา Google ที่ด้านล่างของการค้นหา (SERP) จะมีส่วนแสดงผล "คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ keyword"

---

19. มีคำที่เกี่ยวเนื่อง/เกี่ยวข้องใน Title และ Description Tagตั้งค่า

ข้อแนะนำไม่ควรใช้คำใดคำหนึ่งมากเกินไปจะทำให้ Google คิดว่าสแปม

---

20. โหลดเว็บได้อย่างรวดเร็ว

(ไม่ควรใส่รูปภาพหรือสินค้าในแต่ละหน้ามากเกินไป) สามารถตรวจสอบความเร็วของเว็บไซต์ได้ที่ค้นหา Google Speed

---

21. ไม่ควรมีเนื้อหา/บทความที่ซ้ำกัน 

---

22. ใช้ Rel=Canonical เพื่อบ่งบอกหน้าที่ซ้ำกัน

---

23. โหลดเว็บด้วย Chrome ได้อย่างรวดเร็วและข้อมูลเว็บไซต์สมบูรณ์

---

24. ใส่ข้อมูลให้รูปภาพทั้ง ชื่อไฟล์, Alt Text, Title Description และ Captionใส่ข้อมูลให้ภาพ

ใส่ Alt ให้เหมือนกับการใส่คำอธิบายภาพนั้นๆ เป็นวลีหรือประโยค หลีกเลี่ยงการใส่แต่ keyword

---

25. ความสดใหม่ของเนื้อหา/บทความ ควรจะมีบทความใหม่อย่างน้อยทุกอาทิตย์ (ยิ่งใหม่ - ยิ่งดี) 

รู้หรือไม่ ? หน้า Homepage เป็นหน้าที่มี authority กับ Google อย่างมาก แต่เชื่อหรือไม่ว่า Google มักไม่แสดงหน้าแรกให้ผู้ค้นหา (เพราะหน้าแรกมักจะไม่มีเนื้อหาเฉพาะที่ตรงกับความต้องการผู้ค้นหา) ดังนั้นคุณควรปรับหน้าแรกเพื่อการทำ Brand และเชื่อเชิญลูกค้าไปยังหน้าสินค้าให้ได้รวดเร็วที่สุด

---

26. มีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหา/บทความหรือว่าควรจะมีการปรับเว็บไซต์ให้ดูเหมือนว่ามีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา

การเพิ่มหรือลบทั้งย่อหน้าจะมีผลมากกว่าเปลี่ยนแค่บางคำ

---

27. ความถี่ในการแก้ไขเนื้อหา/บทความ (ยิ่งถี่ - ยิ่งดี) 

หากเป็นไปได้ควรแก้ไขทุกวันและเพิ่มข้อมูลใหม่เช่นบทความใหม่เข้าไปทุกวันถ้าทำไม่ได้ก็ให้เป็นทุกอาทิตย์

---

28. มี keyword อยู่ใน 100 คำแรกของหน้า

ไม่ควรมีซ้ำไปซ้ำมามากเกินไปในหนึ่งหน้าซึ่งจะทำให้เหมือนกับเราพยายามโกง Google

---

29. มี keyword ใน H2, H3 Tag

---

30. การเรียงคำ ตรงกับ keyword

คำว่า "วิธีเปิดร้านค้าออนไลน์อย่างไร" และ "เปิดร้านค้าออนไลน์มีวิธีอย่างไร" นั้นต่างกัน ดังนั้นคุณควรรู้ว่าลูกค้าค้นหาด้วยคำอะไรKeyword Planner รู้หรือไม่ ?การค้นหา keyword ผ่าน Google เช่น พิมพ์ keyword ใน Google แล้วดูจากที่คำแนะนำ (พิมพ์แล้วยังไม่ enter) อาจได้ผลลัพธ์ดีกว่าการค้นหาคำผ่าน Keyword Planner เพราะจะได้ประโยคที่ผู้ใช้ค้นหาจริงๆ มากกว่าที่จะเป็นการหาเป็น คำๆ (ผู้ค้นหาภาษาไทยไม่ได้ค้นหาด้วยคำๆเว้นวรรค แต่ค้นหาแบบเป็นประโยค)

---

31. มี Link อ้างอิ่งส่งออกไปยังเว็บที่มีคุณภาพ

เช่นอ้างอิงถึงข้อมูลจากเว็บไทยรัฐ แต่ต้องส่งออกไป แบบพอดีไม่เยอะมากจนเกินไป

---

32. ความเกี่ยวข้องของเนื้อหาของของเว็บที่ Link อ้างอิงไป

เช่น เว็บไซต์ของท่านเกี่ยวกับซองไปรษณีย์พลาสติก แต่มีลิงก์ที่อ้างอิงออกไปเป็นเว็บขายกล่องไปรษณีย์ Google จะมองว่าเว็บคุณมีแนวโน้มเป็นกลุ่มประเภทเว็บไซต์จำหน่ายอุปกรณ์แพ็คกิ้ง

---

33. หากเว็บไซต์เป็นเว็บไซต์ภาษาอังกฤษการสะกดคำและหลังไวยกรณ์ที่ถูกต้องส่งผลดีต่อความหน้าชื่อถือเว็บไซต์

เพราะในปัจจุบัน Google มี AI ที่สามารถจับได้ว่าเว็บไซต์นั้นใช้ภาษาผิดหลักพยากรณ์

---

34. เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเนื้อหาสดใหม่ ไม่เคยมีการใช้ซ้ำ (ไม่ได้คัดลอกมาจากผู้อื่น) 

หากเว็บไซต์ของคุณมีการคัดลอกเนื้อหามาจากที่อื่นจะถูกลดคะแนนลงไปซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลต่อระดับบน Google มาก ณ ปัจจุบัน

---

35. ทำให้บทความหรือเนื้อหาเว็บไซต์เป็นบทความที่มีคุณภาพ

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบทความนั้นมีคุณภาพ มีคำมากกว่า 1,000-1,500 คำ มีรูปภาพประกอบที่มีระบุเนื้อหา ต้องเป็นบทความที่ User friendly เช่นทำเป็นหัวข้อและลิสต์รายการ

---

36. จำนวน Link อ้างอิงในหน้านั้นๆ ออกไปสู่ภายนอกมากเกินไปไม่ดี

หากจำเป็นต้องระบุอ้างอิงถึงเว็บไซต์ภายนอกเยอะ การใส่ ref='nofollow' ก็จะสามารถระบุต่อ Bot ของ Google ว่าไม่ติดตามลิ้งอ้างอิงนั้นๆ

---

37. บนหน้านั้นๆหากเป็นเนื้อหาควรจะมี มีรูปภาพ วิดีโอ และมัลติมีเดียอื่นๆ ผสมอยู่ด้วย

ข้อแนะนำควรจะใส่ ระบุรายละเอียดเนื้อหาบน AIT เข้าไปในรูปภาพหรือ Video เพราะจะทำให้มีเดียนั้นๆ ติดอันดับบน Google ด้วยเช่นกัน

---

38. อ้างอิงถึงลิ้งที่เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องโยงกันบนเว็บไซต์ (แต่ไม่ควรมีมากจนเกินไป)

เว็บไซต์ที่ถูกระบุถึงมากที่สุด ควรเป็นหน้าที่มีความสำคัญสูงสุด

---

39. จากข้อที่ 38 การระบุลิ้งอ้างโยงกันภายในเว็บไซต์ควรจะระบุเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกันไม่โยงกันมั่ว

การใส่ ลิ้งโยงกันภายในหรือเรียกว่า Internal Link จะเป็นส่งหนึ่งที่ได้ผลดีมากในอดีต แต่ปัจจุบันถูกลดความสำคัญลงมา Google ไปเพิ่มความสำคัญกับ Content มากขึ้น

---

40. ไม่ควรมีลิงก์เสีย (ข้อนี้ส่งผลเสียมากๆต่อลำดับ)

---

41. จัดเรียงข้อความ ขนาดของตัวหนังสือ และสีให้อ่านง่าย

ใส่หัวข้อด้วย H2-H3 , แบ่งย่อหน้าแต่ละย่อหน้าไม่ยาวเกินไป, ใช้ Font ที่อ่านง่ายและตัวหนังสือ 12-14px ขึ้นไป ไม่ควรเล็กจนมองไม่เห็น

---

42. ไม่ควรมี Link ที่ออกไปภายนอก ที่เป็น Affiliate มากเกินไป

---

43. ไม่ควรมี Code error

สามารถตรวจสอบไปที่ Google Search Console ว่ามี Error หรือไม่

---

44. หากซื้อโดเมนที่เคยใช้แล้วมาควรเช็คความน่าเชื่อถือ (Domain Authority - DA)

---

45. ปัจจัย Page Rank (PR) ยังคงมีผลต่อลำดับของเว็บไซต์อยู่ 

รวมทั้ง BackLink ที่มาจากเว็บไซต์ที่มี PR ยังคงให้ได้อยู่ แต่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน

---

46. URL ไม่ควรตั้งให้ยาวเกินไป

---

47. โครงสร้าง URL ไม่ควรซับซ้อน ควรใกล้ หน้าหลัก

ไม่ควรเช่น www.dearcowboy.com/do/sub/one/xxxx.html

---

48. บทควาทเนื้อหาเขียนด้วยคนต้องอ่านออก ไม่ใช่ Spin จากโปรแกรมมา

Google มีบอทจับบทความ Spin ได้แล้ว

---

49. หาก URL เป็น Sub folder ควรจะเกี่ยวข้องกัน

ยกตัวอย่างเช่น Sub Folder ของสินค้า ซองไปรษณย์พลาสติก ก็ควรมีแต่ข้อมูล ซองไปรษณย์

---

50. เว็บไซต์ควรจะมีระบบ Tag (แต่มากเกินก็ไม่ดี)

เช่นแบ่งหมวดหมู่หัวข้อหลักๆอย่างเดียว เช่น ซองไปรษณีย์ กล่อง ถุงแก้ว เป็นต้น

---

51. ไม่ควรแอบตัวหนังสือเช่น ทำตัวหนังสือสีขาว แอบบน Backgroud สีขาว

---

52. ควรตั้ง URL ให้สามารถอ่านได้ง่าย

---

53. มี Reference และที่มา (หากบทความเราเอาจากที่อื่นมา)

---

54. ใช้ลำดับรายการในบทความ สรุปให้ผู้อ่านก่อนจะเข้าไปถึงเนื้อหา

---

55. ระบุลำดับความสำคัญของแต่ละ URL ใน Sitemap.xml

---

56. หากมีลิงก์ออกมากอาจจะให้ Google มองเว็บเราว่า Spam สร้างขึ้นมาเพื่อส่งลิ้งไปยังเว็บอื่นอย่างเดียว

---

57. ทำให้หลายๆ Keyword ติดอันดับ ไม่ควรพยายามอยู่ Keyword หลักอย่างเดียว

จะทำให้ Google มองว่าเว็บเราเป็นเว็บคุณภาพที่ใหญ่

---

58. อายุของ URL นั้นๆ ส่งผลต่อลำดับ ใหม่ๆสดๆย่อมดีกว่า

หน้า URL ยิ่งใหม่ ยิ่งดี แต่หน้าเก่าแบะ Update ข้อมูลใหม่ก็ดีได้เช่นกัน

---

59. เขียนบทความและการจัดเรียกองค์ประกอบของหน้าเว็บเหมาะสำหรับคนจริงๆอ่าน

---

60. ไม่ใช้ Parked Domain

parked domain คือชื่อโดเมนเพิ่มเติมที่นำไปสู่สถานที่เดียวกันเป็นชื่อโดเมนหลักสำหรับบัญชีของคุณ ตัวอย่างเช่นหากคุณมี domain.com และต้องการ domain.net จะนำไปสู่สถานที่เดียวกันคุณจะจอด domain.net เมื่อ domain.com

---

61. เนื้อหาบนเว็บไซต์ที่นำมาลง ควรจะเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้เข้าชมจริงๆ ไม่ควรมี Content เอาไว้หลอก Bot อย่างเดียว

เนื้อหาดี >> คนเข้ามาบ่อย >> อยู่บนเว็บเรานานขึ้น >> ได้คะแนนเยอะ อันดับเพิ่ม

---

62.เนื้อบนเว็บไซต์ดีมีคุณค่าและแตกต่างจากที่อื่นๆ ไม่ควร Copy บ่อยเพราะจะโดนจับกลุ่มคำได้ 

ควรลบหน้าที่ไม่มีคุณค่าออกไปเช่นหน้าทดลอง

---

63. บนเว็บไซต์มีระบุข้อมูลติดต่อ ในกรณีที่เป็น E-Commerce

---

64. เป็นเว็บไซต์ที่ติด Domain Trust และมี TrustRank สูง

ในข้อนี้สิ่งที่ทำให้เว็บเราติด TrustRank สูงนั้นเกิดมาจากการใช้เวลามอบบทความที่มีคุณค่าแก่ผู้เข้าชม

---

65. มีโครงสร้าง HTML CSS Java Script และ Code อื่นๆ ที่ดีไม่ซ้ำซ้อน

---

66. มีการปรับปรุงเนื้อหา บทความและแก้ไขเว็บให้เข้ากับยุคนั้นๆเสมอ

---

67. มีการติดลำดับหรือ Index บน Google เยอะ

จำนวนหน้าเว็บที่มีคุณค่า คุณภาพดีที่เยอะนั้น ทำให้ Google จัดลำดับให้เว็บดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ที่ดี

---

68. มี Sitemap ทั้งแบบ HTML XML

ใช้เว็บสำเร็จรูปทำก็ดีเช่นกัน มีทั้งฟรีและเสียเงินเพื่อทำ Sitemap

---

69. เว็บไซต์มีสถิติการล่มที่ต่ำ

ข้อนี้สำคัญมากๆ แนะนำให้ลงทุนเช่า Host ที่ดีๆ มี Uptime 99.99%

---

70. ที่ตั้ง Host เซิฟเวอร์ หากให้ดีควรจะตั้งในไทยหรือหากหาดีๆไม่ได้ ประเทศสิงค์โปรก็ทดแทนประเทศไทยได้เช่นกัน

สถานที่ตั้งของ Host เว็บไซต์เราจะส่งผลต่อความเร็วของเว็บไซต์เรา และความเร็วของเว็บไซต์ก็ส่งผลต่อลำดับ Google

---

71. เปิดใช้งาน SSL (https://)

ใน 1-2 ปีที่ผ่านมานี้มีการประกาศมาจาก Google เป็นช่วงๆว่าจะให้ความสำคัญเฉพาะกับเว็บไซต์ที่เป็น https มากขึ้นเรื่อยๆ

---

72. บนเว็บไซต์ข้อตกลงการใช้งาน และนโยบายความเป็นส่วนตัว

---

73. ในแต่ละหน้าต้องมี Mete Tag ไม่ซ้ำกัน

---

74. หากเป็นเว็บไซต์ E-Commerce ควร มีเมนู Breadcrumb ที่เรียงลำดับจาก Category ใหญ่ไปเล็ก

---

75. เป็นเว็บไซต์ที่รองรับการดูบนมือถือ "Mobile-friendly"

ข้อนี้สำคัญมากๆในปัจจุบัน และควรทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วบนมือถือ

---

76. หากบนเว็บไซต์ต้องมี Video และไม่มี Player ของเราเอง ให้ใช้ Youtube

หากจำเป็นต้องใช้ของ Player อื่นๆ แนะนำให้ใช้ที่มีความเร็วไม่ต่ำกว่า Youtube

---

77. เว็บไซต์ใช้งานง่าย ไม่มี popup เด้งซับซ้อน

ซึ่งจะทำให้อัตราการกดออกจากเว็บที่สูง และส่งผลต่อให้ลำดับเว็บไซต์ตกต่ำลง

---

78. ติดตั้งและใช้ Google Analytic และ google search console เพื่อวิเคราะห์เว็บไซต์

เพราะจะได้เห็นปัญหาของเว็บไซต์เช่น Error Page อะไรต่างๆ ที่จะส่งผลต่ออันดับโดยตรง และSubmit sitemap เข้าไปใน google search console ซึ่งจะทำให้หากเว็บไซต์เรามีการ Update จะทำให้ Google รับข้อมูล Update นั้นๆ

---

79. หากเป็นเว็บไซต์ E-Commerce ให้ใช้ Google Review หรือไม่ก็ใช้ Google Rich Snippets เพื่อที่จะทำให้บนหน้า Index Google มีดาว

จะส่งผลให้เว็บไซต์เรามีค่าอัตราการคลิกต่อการโชว์มากขึ้น จึงส่งผลให้อันดับเพิ่มสูงขึ้น

---

80. มี Link จากเว็บไซต์ที่มีอายุเยอะ Ref กลับมายังเว็บไซต์เรา

---

81. ในหน้าเว็บไซต์หลักควรจะตั้งโครงสร้างให้มีลิ้งเชื่อมโยงมาที่หน้าหลังเยอะที่สุด

เช่นหากเว็บไซต์มีหลายๆหน้าให้โยงลิ้งจากหน้าอื่นๆมาที่หน้าหลัก

---

82. มีลิ้ง Ref กลับมาเป็น Follow จากเว็บไซต์ที่มีต่าง IP

---

83. ไม่ Spam ทำลิ้งกลับมาจากเว็บไซต์อื่นๆ

---

84. ระบุ Description ทุกๆรูปภาพบนเว็บไซต์

และไม่ควรเป็นข้อความที่ซ้ำๆกัน

---

85. มีลิงก์มาจากเว็บที่เป็นโดเมน .edu, .gov, .go.th, .ac.th

---

86. มีลิ้ง Ref กลับจาก Content คุณภาพ จากเว็บไซต์ที่มี PageRank (PR) สูง

และลิ้งนั้นๆควรจะมีคุณคลิกเข้ามาดูจริงๆ ไม่ควรทำไว้เพื่อหลอก Bot

---

87. มีลิ้งกลับจากเว็บไซต์ที่มี Domain Authority (DA) สูง

---

88. มีลิ้งกลับมายังเว็บไซต์เรา โดยเว็บนั้นๆเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บไซต์เรา

คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าเว็บที่เกี่ยวข้องข้องกับเราหรือเป็นประเภทเดียวกันมีเว็บอะไรบ้าง โดยใช้คำสั่ง related:https://www.dearcowboy.com/

---

89. มีการแชร์บน Social และมีลิ้งบน Post นั้นๆ Facebook Google plus Twitter

---

90. ไม่ควรมีลิ้ง Ref กลับจากเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย หรือกฎของ Google

ยกตัวอย่างเช่น เว็บพนัน เว็บโป้ เว็บโหลดหนังฟรี เว็บผิดลิขสิทธิทั้งหลาย

---

91. ให้หลีกเลี่ยงลิ้งที่มาจาก Post หรือ Comments เว็บ Blog

ปัจจุบันแม้จะมีคะแนน แต่จะถูกมองว่า Spam มากกว่า

---

92. หากมีเว็บไซต์ใหญ่ๆ อ้างถึงเว็บไซต์เรา เราสามารถอ้างลิ้งถึงเว็บไซต์นั้นได้

ไม่ถูกลดคะแนนอันดับ

---

93. บ้างครั้งเราอาจจะสนใจแต่ลิ้ง Follow แต่หากเป็นลิ้งที่ได้จากเว็บใหญ่ๆแล้ว No Follow ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร

ยกตัวอย่างเช่นจาก Social Media

---

94. เพื่อป้องการถูกมองว่าเป็นการสร้างลิ้งกลับมาสู่เว็บเราแบบ Spam ก็สามารถสร้างความหลากหลายจากเนื้อหาของเว็บที่อ้างลิ้งเรากลับเพื่อป้องกันการถูกมองว่า Spam ได้

---

95. หากเป็นลิ้งที่มาจากข้อความเช่น โดย หรือ สนับสนุนโดย หรือ จ้างโดย จะได้คะแนนน้อย (แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย)

---

96. ลิ้งกลับที่อ้างถึงเว็บไซต์เรา ควรมีเนื้อหาด้วย เช่น ซองไปรษรีย์พลาสติก ดีกว่ามีแต่ลิ้งเฉยๆ

---

97. ไม่ควรทำข้อความแอบบนเว็บไซต์นั้นๆ เพื่อส่งลิ้งกลับมาเว็บไซต์เรา เช่นย่อขนาดให้เล็ก หรือทำตัวหนังสือสีขาว

---

98. ข้อความบนลิ้งที่อ้างกลับมาเว็บไซต์เรา ควรเป็น Keyword สั้นๆ มากกว่าที่จะเป็น คำยาวๆ

---

99. แม้แต่การอ้างลิ้งไปมาบนเว็บไซต์ของตัวเอง ทางที่ดี ก็ต้องเป็น Keyword ครอบลิ้งนั้นๆ

---

100. ควรมีข้อความใน Title ของลิงก์ ในทุกๆลิ้งก์ เพื่ออธิบายเพิ่มเติมว่าลิ้งนี้เกี่ยวกับอะไร

Title ของลิ้งคือข้อความที่จะแสดงขึ้นลอยๆ เมื่อนำเมาส์ไปวางที่ลิงก์

---

101. หากเว็บไซต์มีลิ้งกลับมาจากเว็บไซต์ราชการหรือเว็บไซต์สถาบันการศึกษาต่างๆ ลิ้งกลับนั้นๆ จะมีคุณภาพกว่าแบบปกติ

---

102. ลิงก์กลับที่ถูกอ้างถึง ไม่ควรอยู่โดดๆ บนเว็บไซต์นั้นๆ ควรจะมีกลุ่มคำ หรือบทความอยู่รอบๆ

---

103. หากเป็นไปได้ เว็บเราจะมีคะแนนจากลิ้งก์กลับมามากขึ้น หากลิ้งก์นั้นๆ อยู่ในลำดับเริ่มต้นของเว็บไซต์ที่ถูกอ้างถึง

---

104. ลิงก์ที่ได้กลับมา จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ได้มาอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งมาก ยิ่งดี

---

105. ลิงก์ที่ได้กลับมา จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ได้มาอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บไซต์เรา ยิ่งดี

---

106. ข้อความ หรือบทความที่อยู่รอบๆ ลิงก์กลับที่เราจะอ้างถึงกลับ ไม่ควรเป็นคำด่าไปในด้าน -

เพราะ Google จะรู้ว่าเว็บไซต์เราถูกเขียนไปในด้านคำชม (+) หรือ ตำหนิ (-)

---

107. ใช้ Keyword ที่ถูกต้อง ไม่ Spam ในบทความที่ถูกอ้างถึง

---

108. มีจำนวนลิงก์ที่ถูกอ้างถึงจากเว็บไซต์อื่นๆ เพิ่มขึ้นทีละเรื่อยๆ ไม่ครั้งเดียวมาก แล้วไม่มีอีกเลย

---

109. ไม่ควรมีจำนวนลิงก์ที่ถูกอ้างกลับจำนวนน้อยลง เพราะ Google จะรู้ว่าเราได้ถูกลบจากเว็บนั้นๆ

---

110. นำเว็บไซต์เราไปใส่ในเว็บ Directory

เช่น yahoo directory เป็นต้น

---

111. เว็บ Authority Site ที่ได้รับรองจาก Google จะเป็นเว็บไซต์คุณภาพที่จะมีลิ้งกลับมายังเว็บไซต์เรา

เว็บดังๆ ด้านดีๆ ส่วนใหญ่เป็นเว็บ Authority Site เช่น pantip

---

112. มีลิงก์จาก Wikipedia หรือเว็บไซต์รวมข้อมูลอื่นๆ ที่คล้ายกับ Wikipedia

---

113. กลุ่มคำ หรือกลุ่มบทความรอบๆลิ้งกลับมายังเว็บไซต์เราควรจะเป็นกลุ่มคำที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาเว็บไซต์เรา

เพื่อที่จะบ่งบองเป็นนัยแก่ Google ว่าเว็บไซต์นั้นเกี่ยวกับอะไร แล้วเป็นเว็บไซต์ประเภทเดียวกันที่เกี่ยวกับเราหรือเปล่า

---

114. ลิ้งต่างๆ ที่ยิงกลับมาเว็บเรานั้น ยิ่งมีอายุที่แปะอยู่บนนั้นนานเท่าไหร่ยิ่งดี

---

115. ลิ้งกลับควรจะเป็นจากลิ้งที่เป็นเว็บไซต์ที่มี User ใช้จริงๆเช่น มีคนเข้ามามากไหม มีการโต้ตอบไหม

Google มีอัลกอริทึมที่จะรู้ได้ว่าเว็บไซต์ทำเพื่อมาหลอก SEO โดยเฉพาะ

---

116. ในหน้า Profile ของ Web Board ควรจะใส่ลิ้งลงไป

---

117. ไม่ควรจงใจแลกลิ้งกับเว็บไซต์อื่นๆ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ให้มีน้อยๆก็พอ

เพราะในปัจจุบัน Google ออกกฎคือห้ามมีการซื้อ ขาย ลิ้งกัน

---

118. ไม่ควรเอาลิ้งไปใส่เว็บไซต์ที่ Domain เป็นชื่อเดียวกัน

ในข้อนี้ Google จะมี Algorithm ที่จะสามารถรับรู้ได้

---

119. ลิ้งที่กลับมาควรเป็น Direct Link ซึ่งจะดีกว่า 301 redirect Link

---

120. การทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็น Rich Snippets จะส่งผลที่ดีมากๆ ต่อลำดับบน Google

ข้อนี้สำคัญมากๆๆ

---

121. ไม่ควรเอาเว็บไซต์ไปลงใน Automatic Submit Website

---

122. เว็บไซต์ที่มีระดับ TrustRank จะมีโอกาสที่จะได้อันดับใน Google สูงเช่นกัน 

---

123. หากลิ้งกลับของเราไปอยู่ในหน้าที่มีจำนวนลิ้งกลับเยอะ Google จะให้คะแนนจากลิ้งนั้นๆน้อยกว่าหน้าที่มีลิ้งกลับเพียงลิ้งเดียว

---

124. ลิ้งที่มาจาก Post Webboard จะมีค่าน้อยลงในปัจจุบัน

---

125. ในหน้าลิ้งกลับ ควรเป็นหน้าที่มีเนื้อหาบทความมากๆ (มากกว่าจำนวน Code)

ควรมีมากกว่า 1000 คำ

---

126. ทำเว็บไซต์ให้มีเนื้อหาคุณภาพ และเว็บที่มีลิ้งกลับของเราก็ควรเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพเช่นกัน

---

127.ลิ้งกลับจากเว็บไซต์เดียวกันแต่มีหลายๆหน้า จะส่งผลต่อลำดับน้อยลง

---

128. หากยิ่งมีคนกดคลิกเข้าเว็บไซต์เราบนหน้า Google ใน % ที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวนครั้งที่แสดง (Click Through Rate - CTR) จะทำให้เว็บเราถูกดันอันดับขึ้นไปเรื่อยๆ

ควรทำให้เว็บไซต์เรามีความน่ากดคลิกในจำนวนที่มากขึ้น

---

129. ทำให้เว็บไซต์เรามี Click Through Rate - CTR สูงๆ ในจำนวน Keyword ที่มากขึ้นเรื่อยๆ

---

130. Bounce Rate หรืออัตราการออกจากเว็บไซต์หลังจากที่คลิกเข้ามาแล้วต่ำที่สุด 

ควรทำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสำหรับมนุษย์อ่านจริงๆ

---

131. สร้างเว็บไซต์ให้คนจำได้และเข้าแบบ Direct Traffic ในจำนวนที่สูง 

Direct Traffic หรือ การเข้าชมโดยตรง ไม่ผ่าน Google หรือเว็บอื่นๆที่แปะลิ้งเรา

---

132. มี Return ที่สูง ทำเว็บไซต์เราให้ผู้เข้าชมต้องวนกลับมาเข้าใหม่

---

133. ปัจจุบันผู้ใช้สามารถบล็อกเราบน Google ได้ดังนั้นควรทำเว็บไซต์ไม่ให่โดนบล็อก เช่นใส่เนื้อหาไม่มีคุณภาพเข้าไปบนเว็บไซต์

---

134. มีผู้ Bookmarks เว็บไซต์ของเราบน Google Chrome เป็นจำนวนมา

ทำเว็บไซต์ของคุณให้ผู้เข้าชมต่างก็กดดาว

---

135. รูปแบบของเว็บไซต์ต้องสมบูรณ์ไม่ Error บนทุกๆ Browser อย่างน้อยต้อง Perfect บน Google Chrome

---

136. หากเป็นเว็บ Blog หรือมี Community จำนวนของผู้ Comments จะส่งผลโดยตรงต่ออันดับ Google เช่นกัน

---

137. ผู้ชมเว็บไซต์เราอยู่บนเว็บไซต์เราในเวลาที่นานต่อรอบการเข้ามาดู

ถ้าหากคนเข้ามา และออกไปเลยอย่างรวดเร็วจะทำให้เว็บเราถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพต่ำ ไม่ตรงต่อความต้องการของผู้ที่ Search เข้าไป

---

138. หน้าเพจที่สร้างใหม่ และมีเนื้อหาสดใหม่ย่อมดีกว่าหน้าที่มีอายุเยอะบนเว็บไซต์เดียวกัน

---

139. หากบนเว็บไซต์มี Keyword กำกวม จะทำให้ Google แสดงเว็บไซต์เราในหลายๆ Keyword แต่อาจจะไม่แข็งแรงเลยทุกๆ Keyword

---

140. หากผู้เข้าเว็บไซต์เข้าเว็บไซต์เราผ่านประวัติเข้าชม จะส่งผลดีเช่นกัน ฉะนั้นลองเข้าไปดูในหน้าประวัติ เว็บไซต์เห็นง่ายหรือไม่

---

141. พยายามเน้น Keyword ที่เกี่ยวข้องอื่นๆบนเว็บไซต์เช่นซองไปรษณีย์​กับถุงไปรษณีย์เป็นต้น

---

142. ตำแหน่งและภาษาที่อยู่ส่งผลมากต่อการแสดงผลการค้นหาในพื้นที่นั้นๆ เช่นหากอยากให้เว็บไซต์แสดงดีในไทย ควรผสมภาษาไทยไปบนเว็บไซต์

---

143. ทำเว็บไซต์ให้สามารถค้นหาเจอถึงแม้จะในโหมด Safe Search เช่นไม่มีเนื้อหารุนแรงหรือแบบผู้ใหญ่

---

144. มีจำนวนคนแชร์เนื้อหาของเว็บไซต์เราบน Google+ มากจะทำช่วยดันอันดับได้เช่นกัน

---

145. เว็บไซต์เราต้องไม่ถูกร้องเรียนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์หรือ DMCA

DMCA คือ Digital Millennium Copyright Act

---

146. Google จะไม่ทำให้เว็บไซต์เราติดหน้านั้นๆ ในหลายๆตำแหน่ง ฉะนั้น หากเว็บเราติด 2-3 ตำแหน่งแล้วให้เราไปเน้น Keyword อื่นๆต่อไป

---

147. Google จะแสดงเว็บไซต์ที่มีโครงสร้างแบบ E-Commerce มากขึ้นสำหรับคำค้นหาที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อขาย

---

148. เว็บไซต์เรามี Keyword ที่ระบบถึงจังหวัดนั้นๆ ผลการค้นหาในจังหวัดนั้นๆ จะดียิ่งขึ้น

(คาดว่าระบบนี้จะนำมาใช้ในไทยเร็วๆนี้)

---

149. ในหน้า Page ที่สดใหม่และมีวันที่ Google จะแสดงเว็บไซต์เราเป็นเนื้อหาใหม่

---

150. หากเนื้อหาเราเกี่ยวข้องกับ Brand ดัง Google จะระบุได้เช่นกันว่าหากคนค้นหาเกี่ยวกับ Brand นั้นๆจะแสดงผลของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น

---

151. หากเว็บไซต์เราเป็น E-commerce Website ให้ทำโครงสร้างให้ถูกหลัก ในบ้างครั้ง Google จะแสดงรายการสินค้าเราในรูปแบบ Shopping Result

หรือหากอยากทำ Shopping Ads ก็สามารถทำได้เช่นกันในประเทศไทย

---

152. ในปัจจุบันพฤติกรรมผู้ค้าหาสินค้าบน Google มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในการค้นหาสินค้าจากรูปภาพ

ดังนั้นการใส่ Alt text ในรูปภาพมีความสำคัญอย่างยิ่ง

---

153. Easter Egg ( Function เล่นเพิ่มเติมของ Google)

Google มักออกลูกเล่นเสมอเช่นวันปีใหม่หรือวันสำคัญต่างๆ หากเราทำ Keyword ของเราให้ตรงกับวันนั้นๆ เว็บไซต์เราจะขึ้นอันดับในเหตุการณ์ชั่วคราวนี้ได้

---

154. จงทำให้เว็บไซต์เรามี Content ที่ถูกแชร์ใน Social ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

---

155. ลองทำปุ่มให้ Share บน FB หรือทวีสจะสนับสนุนให้คนแชร์เว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น

---

156. ลิ้งที่มีคนแชร์หากโพสนั้นมีส่วนร่วมที่เยอะก็จะสร้างผลดีต่อเว็บไซต์เรา

---

157. หากองค์กรเรามี Facebook สามารถใส่ลิ้งให้คนไปกเ Like ได้ และอย่าลืมแปะลิ้งเว็บไซต์เราบน Facebook นั้นๆ

---

158. ลองสร้างเว็บไซต์ให้มีการ Comment ได้ ก็จะเป็นหนึ่งในวิธีการสร้าง Content ด้วยตัวของมันเอง

---

159. หน้า Facebook Page ก็ SEO ได้เช่นกัน

---

160. Pinterest เป็น Social Network หนึ่งที่มีความสำคัญยิ่ง อย่าลืมทำให้เว็บไซต์เราสามารถ Pin รูปภาพได้

---

161. ให้ทำเว็บไซต์ให้สามารถให้ดาวสินค้าได้ หรือไม่ก็ Vote บทความได้

---

162. ห้าม Spam Post ลง Social Network

---

163. ไม่ควร Copy บนความจาก Social Network มาลง ควรทำบทความลงเว็บไซต์ก่อนเสมอ

---

164. หากเราแชร์เว็บไซต์ของเราเองลงบน Social Network ให้พิมพ์อธิบายจะดีกว่าแชร์เปล่า

---

165. ทำเว็บไซต์เราให้เป็น Article Post สำหรับลงใน Facebook

---

166. หากเว็บไซต์เราเป็นแบรนด์ให้จด Domain เป็นชื่อ Brand และตั้งชื่อ Social Network ให้เป็น Brand ด้วยเช่นกัน

---

167. ข้อดีของการตั้งตัวเป้็นแบรนด์คือเมื่อคนจะค้นหาสินค้าเช่น ซองไปรษณีย์พลาสติก เขาจะมีแนวโน้มมากขึ้นใช้ Keyword "ซองไปรษณีย์พลาสติก Dearcowboy" ซึ่งนั้นจะทำให้เว็บไซต์เราขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน

---

168. อย่าลืมทำ Google My business และใส่เว็บไซต์เราลงไป

---

169. สร้าง Twitter Profile ให้แก่ Brand ของเราก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยในปีนี้

ในปี 2020 Twitter เป็นหนึ่งใน Social Network ที่มีอัตราเติบโตที่สุดอันหนึ่งของไทย

---

170. LinkedIn ก็เป็นหนึ่งใน Social Network ที่ควรมีเอาไว้ และอย่าลืมสร้างกลุ่มก้อนพนักงานบนนั้น

ส่งผลที่ต่อการหาพนักงานทักษะสูงในอนาคต

---

171. แจ้งให้พนักงานสร้าง Profile บน LinkedIn

---

172. เมื่อมี Comment บน Share ใน Social Network ก็อย่าลืมโต้ตอบกับคนเหล่านั้น

จะส่งผลให้เนื้อหาเราดูสดใหม่ในสายตาของ Bot

---

173. หากชื่อแบรนด์เราถูกกล่าวในเว็บไซต์ข่าวชื่อดังจะส่งผลดีต่ออันดับด้วยเช่นกัน

---

174. เพียงแค่พิมพ์กล่าวถึงชื่อแบรนด์เราไม่จำเป็นต้องส่งลิ้งกลับ ก็ส่งผลดีแล้ว

---

175. ในปีปัจจุบัน RSS ถูกลดค่าความสำคัญลงไปแล้ว

ให้เอาเวลาไปสนับสนุนด้านอื่นๆ

---

176. อย่าลืมปักหมุนพิกัดของบริษัท หรือร้านค้าบน Google Map สามารถทำได้โดย Google My Business

---

177. ทำให้เว็บไซต์ปราศจากไวรัสหรือมัลแวร์ใดๆ

ไม่นั้นจะโดนแบนเอา หายไปตลอด

---

178. สิ่งสำคัญที่สุดหนึ่งคือทำให้เว็บไซต์เราเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพดีมากๆเสมอ

---

179. พยายามอย่าส่งลิ้งไปยังเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำหรือไม่ก็เว็บไซต์ Spam และโดนแบน

---

180. ห้ามทำ Redirect ไปเว็บไซต์อื่น

---

181. ไม่มี Popup หรือ Ad เด้งขึ้นมาบนหน้าเว็บไซต์เมื่อมีคนเข้าเว็บไซต์ เพราะจะส่งผลให้คนออกไปอย่างรวดเร็วส่งผลให้อันดับลดลง

---

182. อย่าทำให้เราดูเหมือนจะทำทุกอย่างเพื่อ SEO ให้เน้นย้ำเสมอว่าเพื่อคนเข้าเยี่ยมชมมากกว่า

---

183. หลักการ SEO ที่ดีคือ คุณภาพที่ดีของเว็บไซต์สำหรับผู้เยี่ยมชม

---

184. ไม่ควรมีป้ายลอยไป ลอยมาตลอดเวลาบนเว็บไซต์

---

185. หากเว็บไซต์เราทำขึ้นมาเพื่อเป็น Affiliate Link ก็ควรจะสร้างลิ้งตรงๆ ไม่ควรแอบทำให้เว็บเด้งไปเว็บไซต์ขายของนั้นๆ

---

186. เว็บไซต์ที่สร้างมาเพื่อ Affiliate โดยเฉพาะจะถูกมองว่าเป็นเว็บไซต์ไม่มีคุณภาพ

---

187. ในปัจจุบันนั้นไม่ควรเขียน Macro ขึ้นมาเพื่อทำเว็บไซต์อัตโนมัติ

---

188. ไม่ควรใช้ nofollow กับลิ้งที่ส่งออกบนเว็บไซต์เรามากเกินไป ควรจะส่งออกไปบ้าง

---

189. ก่อนจะซื้อ Host Server ให้ทำการเช็คประวัติว่า Host นี้ไม่รับเว็บไซต์ผิดกฏหมาย

---

190. ไม่ควรทำ Meta Tag ให้มี keyword มากจนเกินไปจนเป็นเหมือน Spam

ปี 2020 Google เน้นหนักไปที่เว็บไซต์ที่พยายามทำ Spam

---

191. ไม่ส่งลิ้งกลับมายังเว็บไซต์เราจนผิดธรรมชาติ เช่นส่งกลับมาอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น

---

192. ให้ติดตาม Algorithm ของ Google ว่ามีการ Update ใดๆ เพื่อป้องกันเว็บไซต์ถูก Ban

---

193. ไม่ควรแปะลิ้งเว็บไซต์เราบนหน้า Profile จากเว็บไซต์หรือ Blog ไม่มีคุณภาพ

---

194. เราไม่ควรส่งลิ้งไปยังเว็บไซต์ที่ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เรามากเกินไป

---

195. ให้เราใช้ Google Webmaster Tools เพื่อดูลิ้งผิดปกติเพื่อที่จะได้แก้ไข

---

196. ไม่สร้างเว็บไซต์ใน IP Class C เดียวกันเพื่อส่งลิ้งไปมา

---

197. ไม่ควรเอาเว็บไซต์ของเราไปเกี่ยวข้องกับเนื้อหาผิดกฎหมายใดๆ ที่กฎหมายในประเทศไทยแบน

---

198. ห้ามซื้อลิ้งเป็นอันขาด เพราะลิ้งที่ยิงมาเว็บไซต์เราล้วนแต่ไม่มีคุณภาพ และยังเป็นลิ้งชั่วคราว

---

199. เว็บไซต์ที่ติดรายการ Google Sandbox จะไม่สามารถทำให้มีอันดับได้ในขณะหนึ่ง

---

200. เราสามารถส่งคำปฎิเสธลิ้งต่างๆ ที่ถูกแกล้งได้

Google มีช่องทางให้เราปฎิเสธลิ้งที่มาจากการถูกกลั่นแกล้งได้

---

• ประชาสัมพันธ์ : เรามีสั่งพิมพ์ซองไปรษณีย์พลาสติกขั้นต่ำ 1,000 ใบ มีโปรตอนนี้ (รายละเอียด)

• Facebook : ติดตามโปรได้ที่ FACEBOOK PAGE

• สู้ๆครับผม ขอให้ขายดีทุกท่านครับ

• ฝากร้าน :ซองไปรษณีย์พลาสติกคุณภาพดี รักบริการจากใจเรา ครับผม 😁