7 วิธีในการโพสต์ Facebook ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ E-Commerce

การโปรโมทสินค้าบางครั้ง ก็มิอาจสู้คอนเทนต์ดีๆสักอันได้

ยิ่งคุณใช้เวลาและเงินในการโฆษณาบน Facebook มากเท่าไหร่ความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำคอนเทนต์ต่างๆ ก็จะยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้น แต่ก่อนที่เราจะทำการโฆษณาอย่างเป็นจริงเป็นจัง เราควรที่จะมีรูปแบบของคอนเทนต์ที่สามารถทำให้สอดคล้องและช่วยเพิ่มการเข้าถึงของผู้ชมให้ได้อย่างมั่นใจเสียก่อน ไม่งั้นคุณได้เสียเงินโปรโมทไปฟรีๆ แน่นอน

แต่คุณเองต้องสงสัยแน่ๆ แล้วไอเจ้า..คอนเทนต์เนี่ย เราควรที่จะใส่ใจกับเรื่องใดมากที่สุด หรือ ควรจะทำคอนเทนต์ประเภทไหนผู้ชมถึงให้ความสนใจกับเรามากขึ้น วันนี้แอดมินจึงมีวิธีใช้งานคอนเทนต์ในแต่ละรูปแบบ มาให้ทดสอบกันว่าสิ่งใดจะตอบโจทย์ผู้ชมได้มากที่สุด และทำได้สะดวกรวดเร็วที่สุด ทั้งนี้ 7 วิธีที่จะทำให้คุณโปรโมท หรือ โพสต์คอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น! จะมีวิธีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ

1. ใช้รูปภาพ

อธิบาย : รูปภาพจะสามารถทำงานบน Facebook ได้ดีกว่าโพสต์ประเภทอื่น ๆ โพสต์ที่มีรูปภาพมีส่วนร่วมมากขึ้น 39% เพราะรูปภาพของคุณสื่อความหมายได้ด้วยตัวเองหรือจะเพิ่มการใส่ข้อความที่เด่น แต่ไม่รกจนเกินไป ไม่งั้น Facebook จะลดการมองเห็นของผู้ชม (ถึงแม้จะไม่มีข้อจำกัดข้อความ 20% แล้วก็ตาม)

2. ขายไลฟ์สไตล์ของสินค้าคุณ ให้มีการเข้าถึงได้มากกว่าเดิม

อธิบาย : หากคุณลองมองย้อนดูถึงการซื้อสินค้าในแต่ละที่ เราเองก็ต้องดูในมุมมองหลายๆอย่างว่า มันเหมาะที่จะเอามาทำอะไรบ้าง เช่น ซองไปรษณีย์พลาสติก จะเอามาใช้ส่งสินค้าประเภทไหนดี ถุงแก้วใส สามารถนำมาใส่อาหารเพื่อถนอมเอาไว้ได้ไหม เป็นต้น ดังนั้นการที่เราจะขายสินค้าเราควรแนบไลฟ์สไตล์ต่างๆเข้าไป ทั้งด้านการใช้งาน รูปลักษณ์ หรือความเกี่ยวข้องของสินค้าว่ามันคู่ควรกับสิ่งใดที่สุดนั้นเองครับ

3. สร้างภาพแบบเรียงต่อกันของสินค้าตามธีมต่างๆ

อธิบาย : การใช้ภาพที่เรียงต่อกันเป็นธีมของตัวเองในแต่ละรูปแบบของสินค้า นั้นส่งผลดีมาก เพราะสินค้าจะสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้นจากความใส่ใจและความสวยงามของคอนเทนต์

4. การแจกส่วนลด

อธิบาย : ทุกคนชอบส่วนลด 42% ของลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์บน Facebook ก็เพื่อรับคูปองและส่วนลด ที่สามารถช่วยเหลือลูกค้าของคุณหรือช่วยแนะนำให้เพื่อนพี่น้องมาใช้คูปองเหล่านี้ การที่สามารถแจกคูปองส่วนลดให้ลูกค้าบอกปากต่อปากได้จะส่งผลลัพธ์ที่ดีกว่าการโฆษณาบน Facebook 2-10 เท่าเลยทีเดียว

5. เสนอส่วนลดที่มีระยะเวลากำหนด

อธิบาย : ส่วนลดที่มีการกำหนดเวลาทำให้เกิดความเร่งด่วนต่อลูกค้า โดยคุณสามารถกำหนดการซื้อขั้นต่ำไว้ได้ ที่คุ้มค่ากับต้นทุนเพื่อให้ดึงดูดลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ที่อาจจะมีการสั่งซื้อในอนาคต

6. ถาม-ตอบกับลูกค้า

อธิบาย : ลองพูดคุยกับลูกค้าของคุณ!ลูกค้าต้องการที่จะได้รับมุมมองใหม่ และการถามคำถามในโพสต์ของคุณทำให้พวกเขามีสิทธิ์แบ่งปันประสบการณ์การใช้งาน เพื่อเป็นแนวทางให้เรานำมาปรับใช้หรือพัฒนาต่อไปได้ในอนาคตอันใกล้

7. เสนอการจัดส่งฟรี

อธิบาย : หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าผู้บริโภคกว่า 20% คิดว่าการจัดส่งฟรีเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ต่างๆ และอีกกว่า 52% ของรถเข็นที่รอการชำระเงินนั้นถูกดองทิ้งไว้เพียงเพราะไม่มีโปรโมชั่นจัดส่งฟรีนั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุผลหากเราดำเนินการให้ตรงจุดและคุ้มค่าทั้งเราและผู้บริโภค ก็จะสามารถทำให้ธุรกิจนั้นก้าวเดินต่อไปได้แบบไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคอีกเลย