สินค้ารวม : 0 บาท ไปที่ตะกร้าสินค้า
โปรโมชั่น : ยอด 650 บาท ฟรีค่าจัดส่ง (ยกเว้นกล่อง)
มีเรื่องเล่าเกี่ยวการขายหนึ่งที่ผมจำขึ้นใจอยู่เสมอคือ มีพนักงานขายรองเท้า 2 คนมายังแอฟริกา เมื่อเข้ามาถึงในเมืองก็พบว่าคนท้องถิ่นในประเทศนี้เดินไป-มา ไปในที่ต่างๆ โดยไม่ใส่รองเท้ากันส่วนใหญ่ เมื่อพนักงานคนที่ 1 เห็นแบบนี้จึงพูด ขึ้นมาว่า "มาผิดที่แล้วไง แบบนี้ขายไม่ออกแน่" แต่ในทางกลับกัน พนักงานคนที่ 2 ก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า "ผิดแล้ว โอกาสของเรามาถึงแล้ว! จะขายให้หมดทุกคนเลย!" แม้เรื่องเล่านี้จะเป็นเรื่อง เล่า ที่พูดกันเล่นๆตลกๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจดี
แม้ในสถานที่เดียวกัน สินค้าเดียวกัน แต่หนึ่งคนกลับมาความมั่นใจว่าประเทศนี้ขายรองเท้าไม่ได้แน่นอน แต่อีกคนหนึ่งกลับมั่นใจว่าที่นี้ขายได้แน่นอน และสิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนแตกต่างกันนั้นก็คือ "วิธีคิด" ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของการขาย ในบทความวันนี้ผมจึงมาอธิบายว่าวิธีคิดแบบใดจะทำให้ท่านไม่พลาดโอกาสในการขายสินค้า
อธิบาย : นักขายที่มีวิธีคิดแบบเชิงบวกนั้น จะเป็นนักขายที่ไม่ได้คิดเพียงอยู่ในกรอบ โดยปกติแล้วสิ่งที่เราเรียนๆมา เขาจะสอนว่า หากมีคนที่จะซื้อสินค้า เราก็จะสามารถขายสินค้าได้ เรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่นักขายที่คิดแบบเชิงบวกนั้นจะต้องไม่ ถูกตีกรอบโดยหลักการดังกล่าวนี้ นักขายเชิงบวกจะมีวิธีคิดเพียงแค่ว่า จะขายความสุข ชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนเหล่านี้ได้อย่างไรเป็นหลักแรกก่อน จากเรื่องเล่าเรื่องรองเท้า นักขายเชิงบวกจะรู้ว่า ทำไมที่แอฟริกาคนถึงไม่ใส่รองเท้ากัน เพราะว่า ในทวีปนี้ยังมีคนหลายๆคนที่เห็นว่ารองเท้าไม่ใช่เป็นเรื่องที่สำคัญพอที่จะเสียเงินซื้อ เพราะเงินแม้แต่จะเอามาซื้อข้าว ซื้อน้ำยังไม่มี แต่หากว่าเรามั่นใจรองเท้าของเรา จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาอย่างไร เช่นราคาถูกจนเขาสามารถจ่ายได้ หรือเมื่อใส่แล้วจะป้องกันบาดแผล การติดเชื้อจากโรคร้ายต่างๆจนทำให้เขาไม่สามารถไปทำงานหาเงินได้ ก็ที่จะจ่ายเงินซื้อรองเท้าก็อาจจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าทำงานโดยเท้าเปล่า ซึ่งขบวนการดังกล่าวนี้ สามารถกลั่นออกมาเป็นคำพูด พรีเซ็นการขายได้ ก็จะสามารถขายสินค้าได้
อธิบาย : สำหรับการขายของแบบมีความคิดเชิงลบนั้น นักขายประเภทนี้จะเห็นอยู่เสมอว่า สินค้าของเรายังไม่ดีพอ สินค้าของเราไม่สามารถขายได้กับที่นี้แน่นอนเพราะว่าไม่มีใครใช้เลย ซึ่งวิธีคิดแบบเชิงลบใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์ เพราะการคิดเชิงลบก็เหมือนกับเป็นการป้องกันความเสี่ยงรูปแบบหนึ่งในทางตลาด หากองค์กรสามารถนำความคิดเชิงบวก กับความคิดเชิงลบมารวมกันได้ ก็จะทำให้เรามองเห็นทั้งโอกาสในการขาย และมองเห็นความเสี่ยงในการขายของได้
FYI : แม้เราจะเป็นนักขายเชิงบวก ก็ขอให้เราคิดให้ดีว่า สิ่งที่เราคิดบวกนั้น ลูกค้าต้องการมันหรือไม่ เพราะถึงแม้เราจะชักแม่น้ำทั้ง 5 มาพูดให้ลูกค้าสนใจ หากมันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ก็นับว่าเสียเวลาที่จะไปขายเปล่าๆ
© 2022, Dearly Commerce Co., Ltd. All Rights Reserved