สินค้ารวม : 0 บาท ไปที่ตะกร้าสินค้า

โปรโมชั่น : ยอด 650 บาท ฟรีค่าจัดส่ง (ยกเว้นกล่อง)

วิธีเปิดร้านค้าบน Shopee อย่างไรให้โปร และเทคนิคที่จะทำให้ร้านค้าของคุณขายดี!!!

วิธีเปิดร้านค้าบน Shopee อย่างไรให้โปร และเทคนิคที่จะทำให้ร้านค้าของคุณขายดี!!!

      พ่อค้าแม่ค้าที่อยากเปิดร้านสำหรับขายของออนไลน์ คงเป็นกังวลกันไม่ใช่น้อยหากที่ต้องไปเริ่มขายของ บนแพลตฟอร์มอย่างเช่น Shopee, Lazada, Facebook, Instagram หรือ อื่นๆ ที่มีร้านค้าหน้าเก่าๆเจ้าถิ่น ทั้งกลุ่มลูกค้าเก่า อีกทั้งยอดขายและราคาของคู่แข่ง จะไปสู้ได้อย่างไรเนี้ย? ในเมื่อการขายแค่หน้าร้านอย่างมันไม่พอ..ก็มีแต่ต้องลุยเท่านั้น ในเมื่อเรากำลังลงไปสนามรบที่กำลังดุเดือด ไปมือเปล่าคงไม่ดีแน่วันนี้ Dearcowboy.com จะขอนำเสนอ “วิธีเปิดร้านค้าใหม่บน Shopee อย่างไรไม่ให้ “Fail” และเทคนิคที่จะทำให้ร้านค้าของคุณขายดี!!!” มาเริ่มกันเลย


      หมายเหตุ : ในส่วนวิธีสมัครขาย สามารถหาข้อมูลได้ทั่วไป แต่ก่อนสมัคร ควรอ่านบทความนี้ให้จบก่อนนะ



1. การตั้งชื่อ (สำคัญ)

      ฟังไม่ผิดครับ การตั้งชื่อนี่แหละที่หลายๆ คนพลาดไปเมื่อเปิดร้านค้าใหม่ใน Shopee และ..และ!! ชื่อในที่นี้ไม่ได้หมายถึงชื่อร้านนะครับ แต่หมายถึงชื่อ “Account (ชื่อผู้ใช้) หรือ ID ” ที่เราใช้สมัคร เพื่อขายของบน Shopee นั้นเอง และไม่รู้เป็นเวรกรรมปางไหน บอกไว้ก่อนเลยหากเรานำชื่อเราไปพิมพ์ค้นหา ในช่องค้นหา ระบบจะไม่แสดงร้านเราขึ้นมา สะงั้น!! แต่เราสามารถกดค้นหาจากชื่อ “Account (ชื่อผู้ใช้) หรือ ID ” ปิ๊ง!! คลิกเดียว ร้านเราจะโผล่ออกมา ข้อนี้ค่อนข้างสำคัญกับร้านเราในระยะยาวเลยละ เพราะฉะนั้นตั้งชื่อจำง่ายๆ น่าจดจำ กันเอาไว้นะทุกท่าน



2. รูปโปรไฟล์ร้านค้า (สำคัญ)

      รูปกลมๆ เล็กๆ เท่าเหรียญบาท อ่านข้อความยังไม่ออก จะช่วยอะไรได้บ้างไหมเนี้ย ? ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ในส่วนรูปโปรไฟล์ร้านที่แสดงผล บน Shopee เมื่อกดค้นหา มันเล็กจริงๆ นั้นแหละ แต่เราก็ยังสามารถทำให้รูปโปรไฟล์ร้านค้าของเรา เป็นที่จดจำได้ โดยคำแนะนำเด็ดๆ จาก Dearcowboy.com คือไม่จำเป็นต้องมีข้อความบนรูปก็ได้ หรือ หากอยากใส่ก็เป็นข้อความสั้นๆ ที่สามารถอ่านได้ ถ้าชื่อร้านยาวเกินไป ก็ทำให้สั้นลงด้วยการใช้ตัวย่อ ให้ข้อความแสดงได้เต็ม และใช้สีสันเด่นๆ ติดตา หรือเลือกใช้โลโก้เด่นๆ โดยคำนึงถึงขนาดรูปที่แสดงผลด้วย (อย่าให้ข้อความหลุดกรอบนะ เล็งดีๆ ฮ่าๆ) และเลือกหากได้แล้วสิ่งสำคัญคือ รูปที่ใช้นั้นควรใช้ไปยาวๆ และไม่ควรเปลี่ยนบ่อย เนื่องจากใน Shopee นั้น มีร้านขายสินค้าชนิดเดียวกันเป็นจำนวนมาก การจดจำชื่อร้านเพียงอย่างเดียว อาจเป็นเรื่องยาก และรูปแสดงผล หรือ คาแรคเตอร์ ของร้านนั้น จะช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายยิ่งขึ้น จะได้ไม่เสียลูกค้าไปง่ายๆไงละ



3. การตั้งชื่อสินค้า (สำคัญ)

      เหมือนขั้นตอนนี้จะดูธรรมดาๆ ไม่มีอะไรมากมาย แต่ถ้าเราคิดจะขายอะไรสักอย่าง และตั้งชื่อสินค้าไปห้วนๆ คงไม่ดีแน่ เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแอดมินขออนุญาตยกตัวอย่างสินค้า “หมึกตากแห้ง” ของใกล้ตัวที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่จะให้ตั้งชื่อสินค้าว่า “หมึกตากแห้ง ถูกๆ” เฉยๆ มันน่ากินที่ไหนละ หากลองเปรียบเทียบกันกับ “หมึกตากแห้ง ตัวใหญ่ ย่างขึ้นเตา สะอาด หอม หวาน อร่อย” ยาวไปก็ไม่เป็นไร อันไหนจะน่าซื้อกว่ากัน เป็นเทคนิคเล็กๆ เพื่อให้ลูกค้าของเรา เห็นหรือจิตนาการถึงสินค้าเราออกว่ามันดีอย่างไรเนื่องจากสินค้าออนไลน์ จะเห็นสินค้าแค่จากที่ตาเห็นเท่านั้น
      ทริค : นอกจากการคิดชื่อให้ดูน่ากินหรือน่าสนใจแล้ว เรายังสามารถค้นชื่อ หรือ Keyword สินค้าของเราที่มีค้นหามากที่สุดใน Shopee ได้ด้วยนะ โดยเข้าไปที่ “Marketing Centre” นั้นเอง



4. การเลือกหมวดหมู่สินค้า (สำคัญ)

      คุณเอาอุปกรณ์ IT ไปขายในแผนกของสด แล้วใครจะมาซื้อ? อย่างที่กล่าวไว้ คุณควรเลือกหมวดหมู่ของสินค้าของคุณให้ถูกต้อง ซิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ลูกค้าของคุณเข้ามาเลือกซื้อเลือกชมสินค้าของคุณได้อย่างจุใจ
      ทริค : หากไม่แน่ใจว่าสินค้าของคุณอยู่ในหมวดหมู่ใด สามารถเข้าไปดูร้านค้าอื่นๆ ที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน หรือ ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของ Shopee ก็ได้เช่นกันจ้า



5. การลงรายละเอียดสินค้า (สำคัญ)

      เพื่อความถูกต้องของข้อมูล คุณควรลงรายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าง่ายต่อการตัดสินใจชื้อ และลูกค้าสามารถรับข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น จำนวน น้ำหนัก รูปแบบ ลักษณะสินค้า วิธีการใช้ ข้อมูลจำเพาะ หรือระยะเวลาการตัดรอบจัดส่งสินค้า เป็นต้น กรณีตัวอย่างที่คุณไม่ได้ลงข้อมูลไว้ หากคุณขายน้อง “ปลาหมึกแห้ง” คุณลงข้อมูลแค่รูป และภาพประกอบ โดยไม่ได้ระบุ ข้อมูลสำคัญใดๆไว้เลย ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้อย่างไร ในเมื่อไม่รู้ว่าจะได้กินน้องหมึกกี่ตัว และไม่รู้ว่าร้านจะส่งน้องหมึกให้กินวันไหน ถ้าลูกค้าเกิดความลังเล คุณบอกลาลูกค้าท่านนี้ไปได้เลย มีอีกหลายๆ ร้านที่พร้อมส่งน้องหมึกไปให้ลูกค้าเรารับประทานเช่นกัน
      ทริค : การลงรายละเอียดสินค้าที่มีภาพประกอบด้วย จะดูดีมิใช่น้อย



6. การลงรูปสินค้า (สำคัญ)

      “First Impression” คำนี้บอกเลยครับสุดในรุ่น ใช้ได้ทุกกับวงการ หากแปลเป็นไทยด้วย Google Translate (ฮ่าๆ) ซึ่งจะหมายความว่า “ความประทับใจแรก” และสิ่งที่จะสร้างสิ่งนี้ให้แก่ลูกค้าของเรา จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากรูปถ่ายสินค้าของเรานั้นเอง การที่คุณสามารถถ่ายรูปสินค้า และทำภาพประกอบสินค้าให้ออกมาดูดีได้ จะสร้างโอกาสทางการขายให้คุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้จะทำให้ร้านค้าน่าเชื่อถือขึ้นอีกเป็นกอง สำหรับท่าน ที่กำลังกังวลว่า “เราจะทำได้หรือเปล่า ไม่มีความรู้มาก่อนเลย จะถ่ายให้สวยได้ไหมน๊า?” คุณไม่ต้องกลัวเลยแม้แต่น้อย ในโลกปัจจุบันที่มีสื่อ หรือ ช่องทางการเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะ Youtube หรือ Facebook ผมเชื่อว่าคุณทำได้แน่นอนครับ
      ทริค : การตกแต่งภาพให้สวย และการใส่กรอบ หรือข้อความข้อดีของสินค้า ไว้เด่นๆ สามารถจูงใจลูกค้าได้ไม่ใช่น้อย และที่สำคัญควรถ่ายรูปสินค้า หลายๆมุมเพื่อชูให้เห็นว่าสินค้ามีคุณสมบัติอย่างที่กล่าวไว้ ตัวอย่างเช่น หมอนนุ่มๆ ก็ ต้องถ่ายรูปออกมาสื่อให้ได้ว่า หมอนของคุณ มันนุ่มจริง เป็นต้น



7. การลงข้อมูลสินค้าและการจัดส่ง (สำคัญ)

      หัวข้อนี้ถ้าคุณข้ามไป เท่ากับถือว่าคุณพลาด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผู้ขายสินค้าใน Shopee หลายๆท่านเคยพลาด เอ๊ะ!!มันจะขนาดนั้นเลยหรือ ? ใช่ครับขนาดนั้นเลย เนื่องจากผู้ขายส่วนใหญ่ จะกรอกข้อมูลสินค้าไม่ถูกต้อง ข้อมูลในส่วนนี้ คือข้อมูลขนาด และน้ำหนักของสินค้านั้นเอง เหตุผลส่วนใหญ่ที่หลายๆท่านพลาดคือ ได้วัดขนาดและชั่งน้ำหนักเฉพาะตัวสินค้าและกรอกในระบบ โดยไม่ได้เผื่อขนาดและน้ำหนักของหีบห่อไว้ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ซองไปรษณีย์พลาสติก บับเบิ้ลกันกระแทก หรือแม้กระน้ำหนักของเทป ซึ่งหากเราใส่ข้อมูลไม่ถูกต้อง เท่ากับว่าคุณจะต้องขาดทุน เนื่องจากค่าจัดส่งโดยปกติผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้ชำระเงินในส่วนนี้ หากสินค้าของคุณ มีน้ำหนัก หรือขนาด ของสินค้าเกินเรทค่าจัดส่ง จะเท่ากับว่าต้องชำระค่าจัดส่งเพิ่ม โดยผู้ที่จะต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็คือร้านของคุณ



8. การตั้งราคาขายสินค้า (สำคัญ)

      ก่อนจะมาถึงข้อนี้ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่คุณต้องเข้าไปดูสินค้า จากร้านที่ขายสินค้าแบบเดียวกับคุณมาก่อน แต่่คุณจะตัดสินใจตั้งราคาขายสินค้า โดยเทียบจากร้านอื่นๆ แค่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ คุณจะต้องคำนวนค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เป็นต้นทุนทั้งหมดเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนจากตัวสินค้า, ค่าธรรมเนียมต่างๆของ shopee, ค่าอุปกรณ์แพ็คสินค้า, ค่าแรงเจ้าหน้าที่ที่คุณจ้างมา, ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย หรือ ค่าใช้จ่ายบริการลูกค้ากรณีหากเกิดความผิดพลาดต่างๆ เป็นต้น จากที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นต้นทุนของคุณทั้งหมด
      ทริค : ทริค : ทั้งนี้ควรคำนึงถึงส่วนลดต่างๆ ในเทศกาลโปรโมชั่น ของ Shopee ที่มีมาบ่อยๆด้วยน๊า



      เป็นอย่างไรกันบ้างครับพร้อมลุยกันในตลาด Shopee กันหรือยัง และอย่าลืมไปกรอกรายละเอียดของร้านค้าและลงรูปร้านค้าไว้ด้วยน๊า ของชิ้นแรกของร้านเราจะต้องขายได้แน่นอน ไม่ช้าก็เร็วนะครับ
      ทริค : สำหรับทริคนี้จะเป็นทริคที่จะทำให้ร้านค้าของคุณของของได้ไวและมากยิ่งขึ้นนั้นคือการลง “โฆษณา” นั้นเอง อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ที่เพิ่มเข้ามา หากร้านของเรา ลง “โฆษณา” ในช่วงต้นๆของการขาย เพื่อให้มีจำนวนสินค้าที่ขายได้ และมีรีวิวจากผู้ซื้อ จะทำให้เราขายของได้ดียิ่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่ง โฆษณาอีก และหากถูกจัดเป็นร้านค้าแนะนำแล้ว คุณจะขายดีสุดๆไปเลยละ
      หมายเหตุ : เพื่อให้การลงโฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด ควรหาข้อมูล หรือทำความเข้าใจก่อนทำ ไม่งั้นคุณอาจจะเอาเงินของคุณไปโฆษณา ให้ร้านคู่แข่งนะเออ



• แจกเดือนใหม่! : คูปองส่วนลด 6% CODE : SEP63 (นำไปสั่งซื้อบนเว็บไซต์)
• อยากประหยัดมากขึ้น? : เรามีขายซองไปรษณีย์แบบยกทั้งลังแล้วนะประหยัดเงินได้เยอะเลย (ขายส่ง)
• Facebook : ติดตามโปรและข้อมูลอื่นๆได้ที่ Dearcowboy Page
• ฝากร้าน : ซองไปรษณีย์คุณภาพดี กล่องไปรษณีย์แบบหนา กันชื้น ซื้อแล้วใช้งาน สบายใจ 🧡
Sept. 21, 2020, 11:07 p.m.
Share : Facebook Google

ซองไปรษณีย์พลาสติก กล่องพัสดุ ถุงแก้วพลาสติก และอุปกรณ์แพ็คกิ้งอื่นๆ ในราคาส่ง