เคล็ดลับ..การส่งขนมอบผ่านไปรษณีย์ที่มือใหม่หัดขายขนมออนไลน์ควรรู้!!!

หลังจากช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดที่ผ่านมา ทำให้หลายคนเข้าครัวทำอาหาร-ทำขนมมากขึ้น จนติดใจอยากจะหยิบงานอดิเรกที่ชอบทำมาสร้างรายได้อีกทาง ในเรื่องของสูตรขนมอบทั้งหลาย เราเชื่อว่า พ่อค้า/แม่ค้าเบเกอรี่มือใหม่ทุกท่านน่าจะลงมือจนมั่นใจแล้ว ส่วนเรื่องนัดรับก็คงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของการจัดส่งผ่านไปรษณีย์นี่สิ ควรทำอย่างไรเพื่อให้ไปถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยที่สุด วันนี้เราจึงนำ “เคล็ดลับเกี่ยวกับการส่งขนมอบผ่านไปรษณีย์ที่มือใหม่หัดขายขนมออนไลน์ควรรู้” มาฝากทุกท่านกัน

1. คัดประเภทขนมอบที่สามารถจัดส่งได้

ทุกคนควรรู้ว่า ขนมอบสามารถขายออนไลน์ได้ แต่ไม่ใช่ว่า ขนมอบทุกประเภทจะสามารถส่งแบบพัสดุไปรษณีย์ได้ ดังนั้น ขั้นตอนแรกคุณควรคัดเลือกประเภทขนมที่คุณจะทำก่อนว่า แบบไหนควรขายเฉพาะแบบหน้าร้าน-นัดรับ และแบบไหนสามารถจัดส่งทางไกลผ่านไปรษณีย์ได้บ้าง ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณเลือกส่งเฉพาะขนมแห้งที่เก็บได้นานและทนความร้อน หลีกเลี่ยงการส่งขนมที่สามารถละลายได้ง่าย เพราะด้วยสภาพอากาศประเทศไทยแล้ว มีโอกาสสูงมากที่ขนมของคุณจะเสียหรือเละเทะก่อนไปถึงมือลูกค้า

2. เลือกบรรจุภัณฑ์และเวลาที่จะใส่ขนมอบอย่างเหมาะสม

การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยลดโอกาสขนมอบเสียหายระหว่างขนส่งไปได้พอสมควร เช่น คุกกี้/บราวนี่ หากมีงบมากพอคุณอาจห่อแต่ละชิ้นแยกกัน แต่หากมีงบไม่มากอาจใส่ในถุงหรือขวดพลาสติกให้เหลือพื้นที่ว่างภายในบรรจุภัณฑ์น้อยที่สุด เพราะถ้าเราเหลือที่ว่างไว้เยอะ ในขณะที่ระหว่างส่งไปถึงมืออาจมีการขยับกล่องไปมาแรงๆ ลองนึกภาพเราเขย่าขนมสิครับ เปิดออกมาอาจจะรวมร่างกลายเป็นก้อนเดียวกันไปแล้วก็ได้ นอกจากนี้ เวลาที่หยิบขนมอบใส่ลงไปในบรรจุภัณฑ์ก็สำคัญเช่นกัน ต้องไม่ลืมที่จะปล่อยให้ขนมเหล่านั้นเย็นตัวเรียบร้อยก่อนทุกครั้ง

3. ใช้กล่องพัสดุไปรษณีย์เท่านั้น

สำหรับใครที่อยากจะลดต้นทุนด้วยการนำซองไปรษณีย์พลาสติกมาใช้แพ็คส่งแทนกล่องสำหรับสินค้าประเภทนี้ ผมขอบอกตามตรงว่า ไม่ควรครับ โอกาสเสียหายและต้องใช้เงินคืนลูกค้ามีสูงมาก ทั้งนี้ Dearcowboy.com ก็มีซองไปรษณีย์ราคาประหยัดๆ จำหน่ายเช่นกันครับผม และขอแนะนำให้เลือกเป็นกล่องพัสดุไปรษณีย์ขนาดพื้นที่ภายในใกล้เคียงกับปริมาณขนมที่เราต้องการใส่ลงไปเท่านั้น เพื่อลดช่องว่างพื้นที่ด้านในให้ภาระที่ต้องพันบับเบิ้ลกันกระแทกหรือยัดกระดาษรีไซเคิลน้อยลง เมื่อลองปิดกล่องไปรษณีย์แล้วต้องไม่ลืมเช็กด้วยการเขย่ากล่องดูเล็กน้อย หากขนมด้านในยังขยับได้อยู่ ควรรีบใส่ตัวช่วยกันกระแทกลงไปเพิ่มทันที

4. จัดส่งกับผู้ให้บริการที่คุณมั่นใจ

ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการขนส่งพัสดุไปรษณีย์มากมาย คุณควรที่จะลองทำตารางเพื่อเปรียบเทียบค่าจัดส่งและระยะเวลาในการขนส่งดูว่า ส่งกับใครคุ้มค่าที่สุด และมั่นใจได้ว่าจะถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัยไวที่สุด ซึ่งทางที่ดีควรใช้เวลาภายใน 1-2 วันเท่านั้น ในส่วนขนส่งที่เราแนะนำ ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย แบบ EMS, Kerry Express, Flash Express และ J&T Express เป็นต้น ซึ่งขนส่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นจะจัดส่งค่อนข้างรวดเร็ว แต่แอดมินอย่างให้ตรวจสอบระยะเวลาจัดส่งของพื้นที่ปลายทางอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันความล่าช้า ที่อาจทำให้ขนมอร่อยๆ ของเราบูดได้

สุดท้ายนี้ ขอให้พ่อค้าแม่ค้าสายเบเกอรี่มือใหม่ทุกท่านสามารถส่งขนมอบแสนอร่อยได้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยทุกออเดอร์ หากสนใจกล่องไปรษณีย์และอุปกรณ์แพ็คอื่นๆ สามารถสอบถามหรือปรึกษาได้เลยครับ เรายินดีพร้อมให้บริการและแนะนำด้วยความจริงใจแก่ทุกท่านเสมอ