ซองไปรษณีย์พลาสติกที่ด้านในสีดำ สีเทา ไม่มีสี ต่างกันอย่างไร

คำถาม
: ซองไปรษณีย์พลาสติกที่ด้านในสีดำ สีเทา ไม่มีสี ต่างกันอย่างไร

บทความในวันนี้เป็นบทความที่มาจากคำถามยอดนิยมที่ลูกค้าถามเข้ามาบ่อย และเป็นคำถามที่ทั้งลูกค้าอยากรู้และผู้ซื้อที่ซื้อนำไปขายต่ออยากทราบเช่นเดียวกัน ซึ่งหลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่าซองสีดำหนากว่าสีเทาและหนากว่าไม่มีสี ความเข้าใจนี้ผิดที่สุด บทความในวันนี้ทางผมจึงอยากจะมาอธิบายในเรื่องดังกล่าวนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านได้เข้าใจผิดอีกในอนาคต

ก่อนที่จะมาเข้าเนื้อหา ทางผมจะมาขออธิบายก่อนว่า ซองไปรษณีย์พลาสติก ไม่ว่าด้านในจะสีอะไร ก็สามารถผลิตให้ได้ความหนาที่เท่ากัน สามารถผลิตได้ทั้งแบบหนา หรือแบบบางก็ผลิตได้เช่นกัน สำหรับหลายๆท่านอาจจะมีคำถามว่า หากแบบนั้นทำไมทุกแบบไม่ผลิตให้ด้านในสีเข้มให้หมด จะได้ดูดี ใช้งานเหมาะสมสำหรับเป็นซองไปรษณีย์ ก็ต้องบอกว่าคำตอบของเรื่องนี้จะเป็นในด้านของเครื่องจักรการผลิต ที่บางโรงงานเป็นเครื่องที่เป่าพลาสติกได้ 1 ชั้น หรือบางโรงงานก็สามารถผลิตซองไปรษณีย์พลาสติกได้ 2-3 ชั้น ซึ่งเครื่องที่สามารถทำให้ด้านในสีดำได้จะต้องเป็นเครื่องจักรที่สามารถเป่าได้ 2 ชั้น (2 Layers) ขึ้นไป

แน่นอนว่า การผลิตที่จำนวนชั้นเยอะ ก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นไปตามกัน โดยมาตรฐานของซองพัสดุ จะมีหลักๆเป็น ความหนา ความเหนียว ด้านนอกสีขาวสว่าง ด้านในทึบป้องกัน UV ซึ่งคุณสมบัติที่กล่าวมานี้เกี่ยวข้องกันทั้งหมดกับการผลิตแบบด้านในสีดำ สีทา และไม่มีสี โดยผมจะอธิบายไปในแต่ละสีว่า ทำไมต้องเป็นสีนี้ โดยจะแบ่งเป็น 3 หัวข้อย่อยๆดังรูปข้างล่าง

แบบที่ 1 : ซองไปรษณีย์พลาสติกแบบด้านในสีเทา

อธิบาย : ซองพัสดุแบบด้านในสีเทาส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะเป็นเกรด A คุณภาพดีที่สุด และเป็นผิวแมท (ร้านของเราก็มีจำหน่ายเป็นสินค้าเกรด A ด้านในสีเทา) ถึงแม้ด้านในจะเป็นสีเทา แต่ก็ทึบแสงได้ 100% เมื่อมองจากด้านนอก ไม่สามารถมองเห็นสินค้าภายในได้ เครื่องจักรส่วนใหญ่ที่ผลิตซองไปรษณีย์แบบนี้ได้จะต้องมี 2 ชั้นขึ้นไป สาเหตุหลักๆที่ต้องผลิตด้านในเป็นสีนี้ หลักๆแล้วจะมี 3 อย่าง ข้อที่หนึ่งคือในด้านต้นทุน ข้อที่สองคือในด้านความขาวของถุงชั้นนอก และข้อที่สามคือในด้านการตลาด ในด้านราคานั้น อันเนื่องมาจากถุงแบบแมท ต้องใช้พลาสติกชนิดพิเศษ ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าปกติ แน่นอนว่าหากด้านในเป็นสีเทา เราจะใช้เม็ดสีดำน้อยจึงประหยัดต้นทุนด้านนี้ได้ จึงทำให้ราคายังพอสู่ตลาดได้ ส่วนข้อที่สองเรื่องขาวของถุงชั้นนอกก็คือ หากเราใช้ด้านในเป็นสีเทา จะทำให้ผิวชั้นนอกขาวสว่างยิ่งขึ้น และลดต้นทุนได้ โดยชั้นนอกไม่ต้องใส่สีขาวไปเยอะ และในข้อที่สามคือด้านการตลาด ปัจจุบันการบริโภคจะรับรู้ว่าซองที่ภายในสีเทาจะเป็นซองไปรษณีย์พลาสติกแบบคุณภาพดีกว่าสีดำ

แบบที่ 2 : ซองไปรษณีย์พลาสติกแบบด้านในสีดำ

อธิบาย : ซองไปรษณีย์แบบด้านในเป็นสีดำนั้น เป็นซองไปรษณีย์ที่นิยม และมีขาวทัั่วไปในตลาด สำหรับซองที่ด้านในเป็นสีดำ เราจะรู้ดีว่า คุณภาพมีตั้งแต่แย่ เอามาใช้ไปได้เลย จนได้ถึงแบบใช้ได้ดี ซึ่งแน่นอนด้านในสีดำ ก็สามารถเป็นแบบผิวแมทได้เช่นกัน แต่จะมีต้นทุนผลิตที่สูงที่สุด และสำหรับซองสีดำปัญหาหลักๆที่พบบ่อยคือ ผิวด้านนอกสีขาว บางครั้งก็ออกเข้มๆ สีไม่สม่ำเสมอกัน (ร้านค้าของเราจำหน่ายซองสีดำเป็นเกรดประหยัด)

แบบที่ 3 : ซองไปรษณีย์พลาสติกแบบด้านในไม่มีสีทึบ

อธิบาย : สำหรับซองไปรษณีย์ที่ด้านในไม่มีสีทึบ ส่วนใหญ่ซองพวกนี้จะผลิตมาเพื่อประหยัดเงินโดยเฉพาะ หรือไม่ก็เป็นถุงสี เพราะหากทำชั้นในสีดำ และชั้นนอกเป็นถุงสีจะทำให้สีชั้นนอกไม่ตรง ควบคุมได้ยาก สำหรับซองแบบด้านในไม่มีสีส่วนใหญ่จะผลิตโดยใช้เครื่องผลิต 1 ชั้น ข้อเสียของซองแบบด้านในไม่มีสีคือ เมื่อบรรจุสินค้าไว้ด้านในจะมองทะลุจากด้านนอกได้ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะโดยขโมยสินค้าได้ หรือสินค้าบางตัวเมื่อโดย UV จะเสียหายก็ไม่แนะนำให้ใช้ซองพัสดุชนิดนี้

ข้อแนะนำ : หากมองเป็นหน่วย ต่อหน่วยแล้ว ซองไปรษณีย์ทั้ง 3 มีราคาต่อหน่วยไม่ต่างกันเยอะ ซึ่งหากจะให้ทางเราแนะนำก็อยากแนะนำให้ใช้เกรดคุณภาพดีที่สุด เพราะหากสินค้าเสียหายจะไม่คุ้มค่าหรือเมื่อลูกค้าได้รับของไปความรู้สึกจะเหมือนสินค้าคุณภาพไม่ดีเพราะบรรจุมาเมื่อถึงมือลูกค้าก็ยับไปหมด หากจะต้องการประหยัดเล็กๆน้อยและเสียต้องนี้ไป ผมคิดว่าไม่คุ้มค่าเลย