5 ข้อผิดพลาดบนเว็บไซต์ ที่อาจทำให้ลูกค้า “ไม่ซื้อ” สินค้าของเรา

“ค่าเฉลี่ยของการทิ้งของไว้ในรถเข็นบนเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์สูงถึง 68.63% โดยที่ไม่ทำอะไรต่อเลย”

วันนี้แอดมินจะมาบอกวิธีในการลดโอกาสที่ลูกค้าจะทิ้งของไว้ในรถเข็นให้เป็นการดึงดูดผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเรา ซึ่งก็เป็นเวลานานแล้วที่ “การช้อปปิ้งออนไลน์” ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้ามากนัก สิ่งสำคัญคือต้องค้นหาได้ง่ายในเครื่องมือค้นหาและมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมเป็นพื้นฐานสำหรับผู้ซื้อในปัจจุบันที่คาดหวังความสะดวกรวดเร็วและการเข้าถึงในทุกช่องทาง เนื่องจากการช้อปปิ้งออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ค้าปลีกที่คอยจับตาดูแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่และกลยุทธ์ของคู่แข่งที่เก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุด

ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มรายได้ในฐานะแบรนด์อีคอมเมิร์ซเราจะแสดงให้คุณเห็นถึงข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง และควรแก้ไขอย่างไร ให้ดึงดูดกลุ่มคนที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าของเราในอนาคต

หัวข้อที่ 1 : การชำระเงินที่น่าหงุดหงิด

ปัญหา & แนวทาง : คุณเคยประสบปัญหาแบบนี้ไหม? ที่จะไปซื้อของจากเว็บไซต์ใดเว็บไซต์นึง แต่ก็ดันใส่การชำระเงินที่ยุ่งยากมากจนทำให้อารมณ์เสียไปเลย บางทีก็คือเปลี่ยนร้านเลย เพราะการจ่ายเงินนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ จะมาจ่ายไปเฉยๆ แล้วไม่มีอะไรยืนยันเราว่าจะได้ของจริงหรือป่าว อย่างน้อยๆ ก็ควรจะมีอะไรแจ้งเตือนเรา หรือ เป็นการแนบสลิปแบบง่ายๆ พร้อมทั้งส่งคำยืนยันให้ผ่าน SMS หรือ E-mail ยิ่งเป็นส่วนดีมาก จงอย่าลืมว่าการขายของต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนลูกค้าประทับใจในที่สุด

หัวข้อที่ 2 : ปุ่มสั่งซื้อสินค้าถูกซ่อนเอาไว้

ปัญหา & แนวทาง : ข้อนี้สำคัญมากและเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ลูกค้าไม่ตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าของเราในเว็บไซต์ เพราะการที่เราจะทำการซื้อสินค้าสักชิ้นนึง แต่ดันหาปุ่มกดเพิ่มเข้ารถเข็นก็ไม่เจอ ไปอยู่มุมนั้นบ้าง มุมนี้บ้าง และแน่นอนว่าการตัดสินใจซื้อของลูกค้านั้นก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ร่วมในขณะนั้นด้วย หากเขาหาเจอยาก หาเจอลำบากก็อาจเสียลูกค้าคนนั้นไปเลยก็ว่าได้ครับผม ดังนั้นเราควรจะทำไว้ให้เด่นชัดสะดุดตาลูกค้า เห็นปุ๊ปกดสั่งปั๊บ

หัวข้อที่ 3 : ไม่มีช่องสำหรับกดค้นหา (สำหรับเว็บไซต์ที่มีสินค้าจำนวนมาก)

ปัญหา & แนวทาง : ลูกค้าส่วนใหญ่นั้นคาดหวังว่าจะสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่ควรจะทําให้ช่องค้นหาเว็บไซต์ของคุณโดดเด่น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถจัดการกับการค้นหาข้อความยาวและเปิดใช้งานการเติมข้อความอัตโนมัติเพื่อให้ได้ลิงก์เข้าไปสู่สินค้าที่ลูกค้าต้องการได้รวดเร็วที่สุด

หัวข้อที่ 4 : ไม่มีหมวดหมู่สำหรับสินค้าแต่ละประเภท

ปัญหา & แนวทาง : สร้างแถบนำทางที่ใช้งานง่ายเข้าว่า ระบุตัวเลือกหลักในเว็บไซต์ของคุณและรายการแต่ละประเภท ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นร้านค้าซองไปรษณีย์พลาสติก ให้แน่ใจว่าลูกค้าของคุณสามารถจำกัดการค้นหาของพวกเขาผ่านทางปัจจัยต่างๆ เช่น ซองไปรษณีย์พลาสติกสีขาว ซองไปรษณีย์พลาสติกสีพาสเทล เป็นต้น

หัวข้อที่ 5 : รายละเอียดการติดต่อถูกซ่อนเอาไว้

ปัญหา & แนวทาง : แน่นอนว่าปัจจัยของการซื้อสินค้า ยังไงก็ต้องมีการติดต่อสอบถามอยู่แล้ว ดังนั้นเราควรที่จะมีปุ่มสำหรับนำไปสู่ ข้อมูลการติดต่อ หรือ เราอาจจะใส่ไว้ด้านบนสุด หรือ ท้ายเว็บไซต์ก็ได้ ซึ่งในปัจจุบันยังมีระบบของการแชทผ่านเว็บไซต์ที่เรียกว่า ป้อปอัพอีกด้วย อย่างไรแล้วควรมีข้อมูลการติดต่อเอาไว้ เผื่อลูกค้าต้องการทราบรายละเอียดที่เด่นชัดกว่านี้ เช่น การออกใบกำกับภาษี การจัดส่งที่ขนส่ง หรือ การสอบถามสถานะสินค้านั้นเอง

ข้อแนะนำ : หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านทุกท่านในการดำเนินธุรกิจ สู้ ๆ ครับ :)