สินค้ารวม : 0 บาท ไปที่ตะกร้าสินค้า
โปรโมชั่น : ยอด 650 บาท ฟรีค่าจัดส่ง (ยกเว้นกล่อง)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบทความของเรากันมาถึงตอนที่ 11 ของ Google Ad Series ซึ่งหากใครที่ยังพึ่งเข้ามาใหม่ยังไม่ได้อ่านตอนแรก ทางเราแนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ ตอนที่ 1 ซึ่งจะทำให้ท่านเข้าใจถึงคำศัพท์พื้นฐานต่างๆในตอนนี้ ซึ่งจะมีคำศัพท์อะไรต่างๆที่ผมจะไม่ได้อธิบายอีกรอบ หรือหากท่านใดพอมีพื้นฐานอยู่แล้วสามารถเข้าสู่เนื้อหาบทความนี้ได้เลยครับผม สำหรับตอนที่ 11 เราจะมาพูดถึง Conversion Tracking ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของ Google Ad เลยก็คือระบบของ Ad เป็นระบบที่ฉลาดมาก ซึ่งจะสามารถจับสัญญาณได้ว่ากลุ่มลูกค้าคนไหน มีความเป็นไปได้ที่สุดที่จะสั่งซื้อสินค้าหรือบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราตั้งเอาไว้ ซึ่งสิ่งนี้ก็คือ Conversion ซึ่งหากวัตถุประสงค์ของท่านคือการขาย 1 Conversion ก็จะเป็น 1 การขาย ซึ่งการที่จะใช้ระบบดังกล่าวนี้ เราจะเป็นที่จะต้องติด Conversion Tracking ซึ่งหลักๆแล้วท่านสามารถติดได้ 2 วิธี 1 คือติดผ่าน Google Ad และอีกวิธีก็คือติดผ่าน Google Tag Manager ซึ่งในบทความนี้ เราจะสอนให้ติดแบบง่ายๆ โดยใช้ Google Ad
โดยใน Series ตอนนี้เราจะกล่าวถึง 5 หัวข้อประกอบไปด้วย
มาดูกันว่าทั้ง 5 หัวข้อจะมีรายละเอียดกันอย่างไรบ้าง
อธิบาย : หากจะเปลี่ยนแปลแบบตรงตัว Conversion แปลว่า "การแปลง" ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาของเรา ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆคือ หากวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาของเราคือการขาย 1 Conversion หมายถึง 1 การขาย หรือหากเราต้องการให้ลูกค้า Add Line เรา เราก็สามารถติดตั้งให้ 1 Conversion คือการ Add Line 1 คนเช่นเดียวกัน
อธิบาย : ให้เรากดที่มุมขวาปุ่ม Tools & Setting และกดไปที่เมนู Conversions
อธิบาย : จากนั้นให้กดเพิ่มโดยกดปุ่มสีฟ้า +
อธิบาย : เลือกที่เว็บไซต์
อธิบาย : นำ Code ดังกล่าวของเราไปแปะไว้ที่เว็บไซต์
อธิบาย : แน่นอนว่าหากท่านนำ Code Conversion Tracking ไปแปะบนเว็บไซต์อย่างเดียวก็อาจจะทำให้ เราไม่สามารถวัด Conversion ได้ตรงจุดได้ อาจจะวัดได้แต่จำนวนคนเข้าเว็บไซต์ แต่ถ้าหากท่านนำ Conversion Tracking Code ไปแปะไว้ในหน้าต่างๆ ที่เป็นขั้นตอนสุดท้ายของวัสถุประสงค์นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น หน้า ขอบคุณหลังซื้อสินค้าเสร็จ หรือเอาไปติดไว้ในปุ่ม Add Line ก็จะทำท่านสามารถวัดผลของ Conversion นั้นๆไปอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นและทำให้ระบบของ Google ได้เรียนรู้ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นด้วย
อธิบาย : ข้อดีของการติด Conversion จะทำให้ ท่านสามารถใช้กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่ วัตถุประสงค์ (Conversion) ของท่านได้ ซึ่ง ณ จุดนี้ จะทำให้ระบบของ Google ค้นหากลุ่มลูกค้าที่ตรงเป้าหมายของท่านได้มากยิ่งขึ้น
อธิบาย : หลังจากที่ท่านติด Conversion Tracking แล้วให้ปล่อยให้ระบบ Google เก็บข้อมูลประมาณหนึ่งซึ่งแนะนำให้ Conversion มากกว่า 50 ขึ้นไปหลังจากนั้นท่านจึงจะสร้าง Compaign ที่ใช้กลยุทธ์ Conversion ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อแนะนำ : หลักจากที่ใช้กลยุทธ์การโฆษณาแบบ Conversion แล้วให้ลองทดสอบผลดูว่า การใช้กลยุทธ์แบบดังกล่าวนี้มีประสิทธิภาพมากกว่ากลยุทธ์ที่เน้น Click หรือไม่ซึ่งในบางกรณีแบบ Click อาจจะให้ผลที่ดีกว่า ซึ่งท้ายสุดแล้วท่านก็จะได้กลยุทธ์ที่เหมาะที่สุดในการทำโฆษณา และขอแนะนำให้ท่านติดตามตอนต่อไปตอนที่ 12 ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การวัดผลต่างๆบน Google Ad ติดตามกันได้ครับผม :)
© 2022, Dearly Commerce Co., Ltd. All Rights Reserved