ก้าวขึ้นไปอีกขั้น! เมื่อญี่ปุ่นพัฒนาเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ให้สามารถ "วาร์ปอาหาร" ไปได้ทุกที่ทั่วโลก

What's this?
: โลกของเรายังคงก้าวล้ำขึ้นไปได้อีก เมื่อเทคโนโลยีเริ่มเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า? "โลกของเรากำลังก้าวขึ้นไปอีกขั้น" ก็ต่อเมื่อเราคิดค้นวิธีการทำอาหารใหม่ๆ หรือ การส่งคนและสัตว์ขึ้นสู่อวกาศได้ หรือแม้แต่การเข้าไปสู่โลกเสมือนได้จริง ทุกสิ่งล้วนเป็นการพัฒนาโดยฝีมือมนุษย์ทั้งนั้น ในวันนี้เราอาจจะยังไม่สามารถเข้าไปสู่โลกเสมือนต่างๆได้ แต่เราอาจจะสามารถทานอาหารจากทั่วทุกมุมโลกได้ โดยที่ไม่ต้องไปถึงประเทศนั้นๆ

เมื่อเราเห็นเทคโนโลยีล้ำๆ ในยุคสมัยนี้ เราคงต้องนึกถึง ญี่ปุ่น อย่างแน่นอน โครงการของโรงไฟฟ้าแห่งนึงในโตเกียว ได้เริ่มพัฒนาเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่สามารถทำให้มันมีรูป รสชาติที่เหมือนกับมียอดฝีมือมาทำให้ถึงที่โดยที่พิมพ์ออกมา ถึงแม้จะมีรูปร่างที่มีมิติ ชวนคิดว่ามันจะกินได้จริงหรือไม่ แต่มันสามารถกินได้จริงและมีรสชาติ เข้าไปเยี่ยมชมเทคโนโลยีนี้ได้จากที่นี่ >> Open Meals

การเริ่มต้นของ Open Meals

Open Meals : เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 โดย Ryosuke Sakaki อาร์ตไดเรกเตอร์จากฝ่ายวางแผนสร้างสรรค์ของ Dentsu และผู้ริเริ่มแนวคิดที่จะปฏิวัติวงการอาหารที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2050 โดยให้คำนิยามถึงนักบินอวกาศ ที่อยู่ไกลแสนไกลนอกโลกจะสามารถรับรสชาติของอาหารอย่างซูชิที่มีเชฟฝีมือดีรังสรรค์ให้ผ่านเครื่องพิมพ์ 3 มิติ หลักการอาหารนี้ ใช้กรรมวิธีในการแสกนอาหารจากที่หนึ่ง และพิมพ์ขึ้นในอีกที่หนึ่ง เหมือนกับการ "วาร์ปอาหาร" ข้ามมิตินั้นเอง

โดยได้แนวคิดมาจากเครื่องพิมพ์ทั่วไป ที่มีเพียง 4 สี แต่สามารถรังสรรค์ออกมาเป็นล้านๆสีได้ในพริบตา และในวัตถุดิบตั้งต้นของการพิมพ์อาหารจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ก็แทบจะไม่ต่างกันเลย คือ มีเพียงแค่รสหวาน เปรี้ยว เค็ม ขม ในรูปแบบเจล ซึ่งจะถูกผสมผสานเป็นล้านๆ รสชาติ จัดเรียงเป็นบล็อคเล็กๆ ที่ต่างกัน หลอมรวมกลายเป็นอาหารที่มีรสชาติ และสารอาหาร แบบเดียวกับต้นฉบับแท้ๆ

กรรมวิธีการพิมพ์ 3 มิติ

1. การแปลงอาหารในรูปแบบอนาล็อกให้เป็นในรูปแบบของดิจิทัล

2. เก็บข้อมูลรูป รส กลิ่น สัมผัสเอาไว้ในฐานข้อมูล

3. ส่งผ่านสัญญาณไปยังเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เพื่อสร้างอาหารจานนั้นขึ้นมา และเสิร์ฟให้คนกินด้วยรสชาติที่เหมือนกับต้นฉบับแท้ๆ

- End credit -

FYI : ในตอนนี้ Sakaki ได้เล็งเห็นถึงนวัตกรรมของเครื่องพิมพ์ 3 มิตินี้ว่า ในอนาคตอันใกล้ภายในปี 2030 ผู้คนจะรู้สึกคุ้นชินกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติมากยิ่งขึ้น และคาดว่าภัตตาคารร้านอาหารจะหันมานิยมใช้กันในปี 2050 เป็นต้นไป ซึ่งแนวคิดนี้เป็นสิ่งที่น่าทึ่งและน่าติดตามเป็นอย่างมาก เราจะได้กินอาหารจากทั่วทุกมุมโลกโดยที่ไม่ต้องบินไปกินถึงที่เลย